สถานการณ์การท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 7 – 13 ตุลาคม 2567

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 13 ต.ค. 67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้วกว่า 27 ล้านคน สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) ฟื้นตัวด้านการเดินทาง โดยเดินทางเข้ามาจำนวน 166,052 คน หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.92 จากสัปดาห์ก่อนหน้า จากการเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป และสหรัฐอเมริกา ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาลดลงร้อยละ 14.70 จากสัปดาห์ก่อนหน้า จากการสิ้นสุดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ในประเทศจีน และเกาหลีใต้ ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 575,415 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 62,744 คน หรือร้อยละ 9.83 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 82,202 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (86,455 คน) มาเลเซีย (85,595 คน) อินเดีย (37,630 คน) เกาหลีใต้ (30,733 คน) และรัสเซีย (24,437 คน) โดยนักท่องเที่ยวมาเลเซียมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 0.42 ในขณะที่นักท่องเที่ยวจีน เกาหลีใต้ รัสเซีย และอินเดีย มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 46.13 ร้อยละ 18.13 ร้อยละ 1.02 และร้อยละ 0.23 ตามลำดับ

สําหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น จากปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การฟื้นตัวด้านการเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) จากการเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาล ที่ช่วยเพิ่มการอํานวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจํานวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น

สําหรับภาพรวมการท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 14 ต.ค. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 13 ต.ค. 67 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 27,218,869 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,270,462 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (5,474,502 คน) มาเลเซีย (3,905,682 คน) อินเดีย (1,606,060 คน) เกาหลีใต้ (1,446,748 คน) และรัสเซีย (1,205,879 คน)