ปลัดกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านกฎหมาย (ASEAN Senior Law Officials Meeting: ASLOM) ครั้งที่ 23

ในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านกฎหมายประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านกฎหมาย ASEAN Senior Law Officials Meeting : ASLOM) ครั้งที่ 23 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยกระทรวงกฎหมายสาธารณรัฐสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพ ในโอกาสดังกล่าวได้รับเกียรติจาก H.E. Mr. Luke Goh ปลัดกระทรวงกฎหมายสาธารณรัฐสิงคโปร์ เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยหัวหน้าคณะ ASLOM ประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ในฐานะผู้สังเกตการณ์ เข้าร่วมการประชุมฯ และกล่าวถ้อยแถลง

ในโอกาสนี้ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถ้อยแถลงการณ์ พร้อมเน้นย้ำว่า ปัจจุบันอาเซียนกำลังเผชิญกับความท้าทายในหลายมิติ ทั้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และสภาพอากาศ โดยการเปลี่ยนแปลงข้างต้นทำให้ระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของอาเซียนจำเป็นต้องปรับตัว เพื่อให้เกิดการพัฒนาและสร้างความสอดคล้องซึ่งกันและกัน อันจะทำให้ภูมิภาคอาเซียนเป็นประชาคมที่ตั้งบนพื้นฐานของกฎข้อบังคับ มุ่งผลประโยชน์ของประชาชน และเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ ประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกฎหมายและแนวปฏิบัติให้ทันสมัย เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนสามารถเข้าถึงกฎหมายและความยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม รวมถึงการสนับสนุนการขับเคลื่อนหลักนิติธรรมในภูมิภาคอาเซียน เพื่อนำไปสู่การส่งเสริมกลไกเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในภูมิภาคที่มีความหลากหลาย ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมกัน และยึดมั่นในหลักการแห่งความเท่าเทียมและการไม่เลือกปฏิบัติทั่วทั้งภูมิภาค

โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา หารือ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็นสำคัญ อาทิ การพัฒนากฎหมายอาญาสำคัญระดับภูมิภาค การเสริมความร่วมมือและความสอดคล้องด้านกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของอาเซียน ความร่วมมือด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมกับองค์กรสาขาอื่น ๆ และประเทศคู่เจรจาของอาเซียน การปฏิรูปการอนุญาโตตุลาการทางพาณิชย์ระหว่างประเทศ เป็นต้น

นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้พบและหารือข้อราชการกับนางอุรีรัชต์ เจริญโต เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ในประเด็นเกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาคอีกด้วย