วันที่ 8 ตุลาคม 2567 ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานการประชุม “หุ้นส่วนความร่วมมือเพื่อคนไร้บ้าน: จากการตั้งหลักสู่ความมั่นคง” เนื่องในโอกาสสัปดาห์วันที่อยู่อาศัยโลก (World habitat day) พร้อมร่วมแถลงผลสำรวจข้อมูลเชิงลึกสถานการณ์คนไร้บ้านปี 2566 โดยความร่วมมือระหว่าง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิอิสรชน และภาคีเครือข่ายคนไร้บ้าน ซึ่งมีนางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. นายอนรรฆ พิทักษ์ธานิน ผู้จัดการแผนงานพัฒนาองค์ความรู้และประธานยุทธศาสตร์เพื่อการสร้างเสริมสุขภาวะคนไร้บ้าน สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน
นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวง พม. เดินหน้าขับเคลื่อนงานคนไร้บ้าน ที่เป็นหนึ่งในประเด็นวิกฤตประชากรร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และผลักดันการแก้ปัญหาเชิงรุกผ่านโครงการแจงนับคนไร้บ้าน (One Night Count) ที่เข้ามามีส่วนช่วยในการสำรวจจำนวนคนไร้บ้าน ความต้องการ และสภาพปัญหาของคนไร้บ้านทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ พร้อมทั้งวางเป้าหมายร่วมกันในออกแบบระบบการคุ้มครองดูแล การจัดจุดบริการในพื้นที่สาธารณะเพื่อสร้างการเข้าถึงได้ง่าย และเสริมศักยภาพคนไร้บ้านให้เข้าถึงการมีที่อยู่อาศัย มีอาชีพ ตลอดจนสามารถเข้าถึงสิทธิสวัสดิการและใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างมั่นคง
นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า การจัดงานหุ้นส่วนความร่วมมือเพื่อคนไร้บ้านในวันนี้ นอกจากจะเป็นการสานพลัง ทบทวนการทำงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา ยังเป็นการวางหมุดหมายสำคัญเพื่อรับมือความท้าทายในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ เพื่อสร้างการตระหนักรู้และความเข้าใจในประเด็นคนไร้บ้านให้แก่สังคม ตลอดจนทบทวนนโยบายและการทำงานระหว่างภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน รวมถึงการสร้างโอกาสในการตั้งหลักชีวิตของคนไร้บ้านได้อย่างมีศักยภาพต่อไป
นางภรณี กล่าวว่า จากข้อมูลการแจงนับคนไร้บ้านทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในเดือน พ.ค. ปี 2566 พบคนไร้บ้าน 2,499 คน มีสาเหตุหลักมาจาก ไม่มีงานทำ ตกงาน 44.72% รองลงมา คือ ปัญหาครอบครัว 35.18% และช่วงอายุคนไร้บ้านส่วนใหญ่ คือ วัยกลางคน อายุ 40-59 ปี 56.8% (1,419 คน) รองลงมาวัยสูงอายุ 22% (553 คน) ลักษณะภายนอกที่เห็นได้ชัด คือ ติดสุรา 18.1% มีปัญหาสุขภาพจิต 17.9% ในจำนวนนี้มีแนวโน้มความรุนแรงเพียง 1-2% นอกจากนี้ยังพบสัดส่วนคนไร้บ้านที่มีปัญหาด้านสิทธิสถานะ สวัสดิการ 30% และมีคนไร้บ้านหน้าใหม่ที่เข้าสู่ภาวะไร้บ้านไม่เกิน 2 ปีมากถึง 27% โดยในจำนวนนี้พบคนไร้บ้านเลือกอยู่ตามลำพังกว่า 74.1%
“สสส. ร่วมกับ พม. และภาคีเครือข่าย มุ่งสานต่อโครงการที่อยู่อาศัยคนละครึ่ง พัฒนาระบบศูนย์พักคนไร้บ้าน พัฒนาระบบจุดประสานงานคนไร้บ้าน (จุด Drop in) สนับสนุนสวัสดิการ บริการทางสังคม รวมถึงสุขภาพคนไร้บ้าน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์คนไร้บ้านสูงอายุที่มีสถิติแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เชียงใหม่ และขอนแก่น พร้อมขยายผลเชิงพื้นที่ใน กทม. และต่างจังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ชลบุรี และระยอง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการย้ายถิ่นทำงานของคนไร้บ้านตามฤดูกาลมากที่สุด และสนับสนุนโครงการคนไทยไร้สิทธิ ให้ครบทั้ง 13 เขต ของ สปสช. ภายในปี 2570 ” นางภรณี กล่าว
นายอนรรฆ กล่าวว่า การขับเคลื่อนและทำงานประเด็นคนไร้บ้านในช่วงที่ผ่านมา ทั้งมิติการป้องกันและฟื้นฟู ชี้ให้เห็นว่าความร่วมมือจากหลายภาคส่วนเป็นเรื่องที่มีความจำเป็น เพราะการเข้าสู่ภาวะไร้บ้านสัมพันธ์กับความเสี่ยงทางสังคม เศรษฐกิจ มีมิติที่ซับซ้อนอย่างมาก โดยหลังจากได้ข้อมูลประชากรคนไร้บ้าน จะนำไปออกแบบกระบวนการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน และป้องกันการเข้าสู่ภาวะไร้บ้าน ให้มีความสอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ซึ่งจุฬาฯ และภาคีเครือข่าย จะวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อวางแผนสำรวจคนไร้บ้าน ในวิธีสุ่มตัวอย่างนับจำนวน (capture-recapture method) ช่วยให้สามารถคาดการณ์จำนวนประชากรที่เข้าสู่ภาวะไร้บ้านได้อย่างแม่นยำ และสนับสนุนการออกแบบเชิงนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน
#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #คนไร้บ้าน #สสส #จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย