นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยติดตั้งป้ายเตือน พร้อมทั้งจัดชุดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนให้เดินทางอย่างปลอดภัย เนื่องจากมีบางสายทางที่ระดับน้ำเริ่มลดลงและบางสายทางรถสามารถสัญจรผ่านได้แล้ว สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน (วันที่ 8 ต.ค. 67 เวลา 10.00 น.) สำนักบำรุงทาง ได้รายงานถึงโครงข่ายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย ตาก และสุโขทัย จำนวน 4 สายทาง โดยสัญจรผ่านไม่ได้ จำนวน 2 สายทาง และสัญจรผ่านได้ จำนวน 2 สายทาง ดังนี้
สายทางที่สัญจรผ่านไม่ได้ 2 สายทาง
1. ถนนสาย นค.3042 แยก ทล.211 – บ้านธาตุกลางน้อย อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 16+300 ถึง 17+300)
2. ถนนสาย ตก.5015 แยกทางหลวงชนบท ตก.1004 – บ้านแม่เชียงราย อำเภอสามเงา จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่5+900 ถึง 5+940)
สายทางที่สัญจรผ่านได้ 2 สายทาง
1. ถนนสาย ตก.1004 แยก ทล.1 – บ้านนาตาโพ อำเภอสามเงา จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 4+600 ถึง 4+850)
2. ถนนสาย สท.4001 แยก ทล.1293 – บ้านหนองกระดิ่ง อำเภอกงไกรลาศ, คีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 0+790 ถึง 1+690)
นายมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับจังหวัดเชียงใหม่นั้น แขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ได้รายงานความคืบหน้าของถนนสาย ชม.3029, ถนนสาย ชม.2025 และ ถนนสาย ชม.3035 ว่าปัจจุบันรถทุกชนิดสามารถสัญจรผ่านได้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงจะเริ่มลดลง แต่หลายพื้นที่ลุ่มต่ำในจังหวัดเชียงใหม่ยังมีน้ำไหลเข้าท่วมอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทช.จะติดตามและประเมินสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่เตรียมความพร้อมทั้งเครื่องมือ เครื่องจักร และกำลังคน เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน หากประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146