นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวบรรยายหัวข้อ “การขับเคลื่อนวัฒนธรรมสู่พลังแห่งอนาคต Culture for the Future” ภายใต้โครงการถอดบทเรียนการขับเคลื่อนงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม “22 ปี กระทรวงวัฒนธรรม นำคุณค่า พัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” ซึ่งมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม หัวหน้าส่วนราชการ และองค์การมหาชนในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม วัฒนธรรมจังหวัด 76 จังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร และประธานสภาวัฒนธรรมเขต ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมรับฟัง เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า วธ.มุ่งขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมตามนโยบายนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เน้น 4 เรื่องหลัก คือ ทุน ระบบนิเวศ คน และสินค้าและบริการ โดยมุ่งเน้น 4 นโยบาย ได้แก่ 1.ส่งเสริม สร้างสรรค์ ผลักดันทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นทุนทางเศรษฐกิจ 2.เสริมสร้างระบบนิเวศและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจวัฒนธรรม 3.เสริมพลังสร้างสรรค์ให้ “คน” เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมและสังคม และ 4.พัฒนาและผลักดันสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมให้มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นในตลาดโลก
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 9 จุดเน้นเพื่อเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจวัฒนธรรมสู่การปฏิบัติ เพื่อก้าวสู่อนาคต ทำให้สังคมเข้มแข็งและเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่ 1.ส่งเสริมให้ประชาชนเห็นคุณค่าและมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย 2.ส่งเสริมและพัฒนาทักษะการดำเนินชีวิต 3.สนับสนุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคลากรด้านวัฒนธรรม 4.พัฒนาศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมวัฒนธรรม 5.พัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพของบุคลากรและหน่วยงานในสังกัด วธ. 5.พัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพของบุคลากรและหน่วยงานในสังกัด วธ. 6.ส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม 7.พัฒนาแหล่งเรียนรู้และแหล่งบริการทางวัฒนธรรม 8.ยกระดับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมไทยสู่เวทีโลกและ 9.ส่งเสริมเศรษฐกิจวัฒนธรรมตามความต้องการของตลาด
“ก้าวต่อไปในปีที่ 23 ของ วธ. ขอให้ผู้บริหารและข้าราชการร่วมมือกันขับเคลื่อนให้วัฒนธรรมคือ พลังแห่งอนาคตก้าวสู่เศรษฐกิจวัฒนธรรมเป้าหมาย โดยมุ่งเน้น 9 จุดเน้นข้างต้น ทำให้ วธ.เป็นกระทรวงที่สมาร์ททำได้ทั้งเรื่องสังคม ปลูกฝังค่านิยม จิตสำนึกที่ดีและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ที่ผ่านมา วธ. ได้อบรมให้ความรู้แก่บุคลากร ผู้ประกอบการทั้งด้านกฎหมาย การตลาดและมีงานวิจัยการขับเคลื่อน Soft Power อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ด้านวัฒนธรรมสาขาต่างๆ เพื่อให้รู้ถึงความต้องการและแนวทางส่งเสริมการตลาดทั้งไนไทยและต่างประเทศในกลุ่มอาเซียนและยุโรป มีการพัฒนาบุคลากรให้รู้เท่าทันเทคโนโลยีด้วยการเป็นกระทรวงแรกที่ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมใช้งานระบบ e-Office ภายใต้งานบริการคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัล การส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรมโดยร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร การส่งเสริมและเพิ่มมูลค่ามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน เพื่อผลักดันให้ วธ. เป็นศูนย์กลางในการดูแล รักษา พัฒนา ต่อยอด ทุนทางวัฒนธรรม ส่งเสริมงานด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมให้เข้าถึงประชาชนและเปิดโอกาสให้ศิลปิน บุคลากรด้านวัฒนธรรมและประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการงานวัฒนธรรมของชาติ พร้อมทั้งยกระดับกลไก ระบบและมาตรฐานการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เกิดการใช้พลังสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้สังคม เศรษฐกิจดี มีรายได้จากวันนี้ไปสู่อนาคตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมและสังคมอย่างยั่งยืน” นางยุพา กล่าว