วันที่ 2 ตุลาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธียกเสาโกเต้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต พร้อมเยี่ยมชมบูธกิจกรรมการบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมให้การต้อนรับ องค์กรภาคเอกชน ตลอดจนชาวภูเก็ต นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างสวมใส่ชุดขาวเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ณ ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง (มูลนิธิจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง) จังหวัดภูเก็ต
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผมมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธียกเสาโกเต้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นเทศกาลถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ตในวันนี้ เมื่อกล่าวถึงประเพณีถือศีลกินผัก หรือที่เรียกว่า “เจี๊ยะฉ่าย” ก็ต้องนึกถึงจังหวัดภูเก็ตและศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยโบ้เก้ง ซึ่งเป็นศาลเจ้าประจำจังหวัดภูเก็ตที่อยู่คู่กับคนภูเก็ตมาอย่างยาวนานกว่า 199 ปี ผมขอแสดงความยินดี และขอบคุณบรรพชนชาวภูเก็ต ที่ได้มอบประเพณีที่ดีงามแบบนี้ ให้กับพวกเราลูกหลานชาวภูเก็ตได้สานต่อเจตนารมณ์ จนได้รับการประกาศจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม “ขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ด้านการปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล นอกจากนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจให้ชาวภูเก็ตและคนทั้งชาติที่จังหวัดภูเก็ตได้รับรางวัล “เมืองเทศกาลโลก (World Festival and Event City)” ที่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต ในทุกมิติสำหรับการเป็นเมืองเจ้าภาพแห่งงานอีเวนต์และเทศกาลในระดับโลก และนอกจากรางวัลเมืองเทศกาลโลกแล้ว “ประเพณีถือศีลกินผัก” ดังกล่าว ยังสามารถคว้ารางวัล “Grand Pinnacle”
ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดที่มอบให้โดย International Festivals & Events Association : IFEA ถือเป็นการสืบสาน ประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเป็นอัตลักษณ์ของเมืองที่สะท้อนให้เห็นผ่านงานเทศกาลได้อย่างดีเยี่ยม
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ต ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองเทศกาลโลก “งานประเพณีถือศีลกินผัก ได้รับรางวัลแกรนด์ พินนาเคิล (Grand Pinnacle) ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของสมาคมเทศกาลและกิจกรรมระหว่างประเทศ (IFEA) อีกด้วย ซึ่งในนามของรัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ขอขอบคุณคณะกรรมการการจัดงานทุกภาคส่วน ที่มีส่วนร่วมในการสืบทอดประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ โดยในส่วนของกระทรวงแรงงานมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดภูเก็ตมาร่วมออกบูธให้บริการประชาชน ได้แก่ การขึ้นทะเบียนแรงงานนอกระบบ แนะแนวอาชีพ คลินิกอาชีพ รับสมัครทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและฝึกอบรมอาชีพอิสระ ให้ความรู้และคำปรึกษาด้านกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ความปลอดภัยในการทำงาน และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้งานประกันสังคมพร้อมรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 อีกด้วย
“ผมต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ และขอเชิญชวนทุกท่านร่วมงานระหว่างวันที่ 3-7 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น ให้เกิดรายได้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศต่อไป”นายพิพัฒน์ กล่าว
