วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2567 เวลา 13.30 น. กรมการศาสนา จัดพิธีถวายทุนการศึกษาแก่พระภิกษุและสามเณร โครงการสนับสนุนศาสนทายาทสืบสานและเผยแผ่พระพุทธศาสนา ภายใต้กองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ แม่กองบาลีสนามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา ประชาชน พระภิกษุและสามเณรผู้เข้ารับทุนการศึกษา และสื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธี ณ พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมการศาสนามีภารกิจหลักในการอุปถัมภ์ คุ้มครองพระพุทธศาสนา ส่งเสริมการเรียนรู้ คู่คุณธรรม รวมทั้งเป็น ผู้กำกับดูแลกองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยได้ร่วมกับภาคคณะสงฆ์ดำเนินการส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรม โดยจัดพิธีถวายทุนการศึกษาพระภิกษุและสามเณรที่สอบบาลีสนามหลวงได้ในปีการศึกษา พ.ศ. 2567 ตั้งแต่เปรียญธรรม 3 ประโยค – เปรียญธรรม 8 ประโยค จำนวน 270 รูป เพื่อให้ทำหน้าที่ศาสนทายาทในการรักษาสืบทอดศาสนธรรมและทำนุบำรุงดูแลศาสนวัตถุ รวมทั้งนำหลักธรรมทางศาสนานำพาความสุขมาสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ อีกทั้ง สนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ส่งเสริมการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณร ให้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น สร้างศาสนทายาทในการทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน มีพระภิกษุสามเณรที่ได้รับทุนแล้ว รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 3,000 รูป ซึ่งในปัจจุบันจำนวนพระภิกษุสามเณรที่เป็นศาสนทายาทสืบทอดพระพุทธศาสนา กำลังขาดแคลนอันเนื่องมาจากความเปลี่ยนแปลงของสังคมภายใต้อิทธิพลของระบบทุนนิยม และบริโภคนิยม การบวชเพื่อศึกษาเล่าเรียนอุทิศชีวิตเพื่อสืบทอดพระศาสนาจึงลดน้อยถอยลงเป็นอย่างมาก ถ้าหากพระภิกษุและสามเณรมีโอกาสได้รับการศึกษาพุทธธรรมในขั้นสูง สามารถค้นคว้าและทำความเข้าใจพระไตรปิฏกอย่างแตกฉาน จะสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาได้ด้วยตนเอง นำไปปฏิบัติอย่างถูกต้องจนบรรลุธรรมแล้ว ยังสามารถนำไปสั่งสอนพุทธบริษัทต่อไปได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างให้พุทธศาสนิกชนเกิดความเชื่อมั่น เลื่อมใส ศรัทธา ในศาสนทายาทผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนา และนำหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่ตั้งในการดำเนินชีวิต
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อว่า จากการดำเนินงานโครงการดังกล่าว กรมการศาสนา มุ่งหวังให้พระภิกษุและสามเณรที่ได้รับการสนับสนุน เสริมสร้าง ให้มีโอกาสในการศึกษาที่สูงขึ้น จะนำความรู้ หลักธรรม คำสอนทางศาสนา ที่ได้จากการศึกษาเล่าเรียน ไปถ่ายทอดให้พุทธศาสนิกชน ได้ประพฤติ ปฏิบัติ ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน ส่งเสริมการเผยแผ่คุณธรรมจริยธรรมที่ดีงาม เพราะพระภิกษุสามเณรนั้น ถือเป็นบุคลากรที่มีส่วนสำคัญต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา รวมทั้งเป็นกลไกที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนดีมีศีลธรรม ทั้งนี้ พระภิกษุสามเณรจึงมีหน้าที่หลักคือการศึกษาเล่าเรียนและสืบทอดพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า กล่าวคือต้องศึกษาเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎี แล้วนำมาฝึกปฏิบัติ และนำหลักธรรมที่ถูกต้องไปอบรมสั่งสอนเผยแผ่ให้เกิดศรัทธาแก่ประชาชน ให้รู้และเข้าใจจนเป็นผู้ดำรงตนตามกรอบศีลธรรมอันดีงาม