วันที่ 26 กันยายน 2567 นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมที่จะขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2568 ในทุกมิติให้มีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ตั้งแต่การเกิดของเด็กไทย ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีอัตราการเกิดลดลง ดังนั้นเมื่อมีอัตราการเกิดน้อย จึงต้องทำให้เกิดอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดยทารกแรกเกิดจะต้องได้รับการตรวจภาวะพร่องโฮโมนไทรอยด์ โรคทางพันธุกรรมที่หายาก เพื่อรักษาได้ทัน สำหรับสตรีตั้งครรภ์มีการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม การตรวจธาลัสซีเมีย ซึ่งเป้าหมายหลักของการตรวจคัดกรองทารกแรกเกิด คือ “ตรวจเร็ว รู้เร็ว รักษาง่าย ผลการรักษาดี สติปัญญาดี” เพื่อให้เด็กไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี เติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต
นอกจากนี้ภาวะคุกคามสุขภาพสตรี โดยเฉพาะโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกที่พบมากเป็นอันดับ 1 และ 2 ของโรคมะเร็งทั้งหมดในสตรีไทย ดังนั้นการรณรงค์ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมในสตรีไทยจึงเป็นแนวทางที่สำคัญในการป้องกันโรค โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้พัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการตรวจหาการกลายพันธุ์ของยีน BRCA1/BRCA2 ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูงและญาติสายตรง เพิ่มการเข้าถึงบริการตรวจ วางแผนป้องกัน และรักษา ได้ทันเวลา ลดอัตราการเจ็บป่วย และเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมได้
นายแพทย์ยงยศ กล่าวต่อว่า สำหรับโรคมะเร็งปากมดลูก ในแต่ละปีประเทศไทยจะพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ เกือบ 1 หมื่นราย และเสียชีวิตเกิน 50% หรือทุก 2 ชั่วโมง จะมีสตรีไทย 1 คนเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูก ดังนั้นการฉีดวัคซีน HPV ในเด็กผู้หญิงจึงมีความสำคัญมาก รวมทั้งการตรวจคัดกรองเพื่อหาเชื้อไวรัส HPV ระยะก่อนเป็นมะเร็ง ทำให้สามารถรักษาหายได้ ซึ่งปัจจุบันการตรวจคัดกรองด้วยวิธี HPV DNA test โดยการเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง เป็นสิทธิประโยชน์ที่ สปสช.กำหนดให้หญิงไทยสามารถตรวจได้ฟรี
ทั้งนี้ การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธี HPV DNA test เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV แบบเจาะลึกระดับ DNA ที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกโดยตรง สามารกระบุสายพันธุ์เสี่ยงสูง ได้ถึง 14 สายพันธ์ มีความไวในการตรวจพบเชื้อไวรัส HPV ถึง 90-95% มีความแม่นยำสูง ทำให้พบเชื้อในระยะก่อนที่เซลล์จะพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูก โดยเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์รุนแรงที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก มี 14 สายพันธุ์ประกอบด้วย HPV 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 52, 56, 58, 59, 66 และ 68 สำหรับประเทศไทยพบการติดเชื้อไวรัส HPV 5 อันดับแรก ได้แก่ สายพันธ์ 52, 16, 68, 58 และ 66 ตามลำดับ ซึ่งมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูกได้
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยพบว่า หญิงไทยกลุ่มเป้าหมายไม่ได้รับการตรวจคัดกรองจำนวนประมาณ 12 ล้านคน ดังนั้นในปี 2568 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังคงร่วมกับภาคีเครือข่าย ตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง และขอเชิญชวนสตรีไทยอายุ 30-59 ปี 11 เดือน 29 วัน และ อายุ 15-29 ปี ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ที่ไม่เคยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธี HPV DNA ในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา มารับการตรวจคัดกรอง โดยสามารถลงทะเบียนรับชุดเก็บตัวอย่างด้วยตัวเองฟรี สำหรับในเขตกรุงเทพมหานครรับบริการได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง หรือสถานบริการใกล้บ้าน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โทรศัพท์ 0 2951 0000 ต่อ 98033, 99305, 99206 และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 15 แห่งทั่วประเทศ” นายแพทย์ยงยศ กล่าวทิ้งท้าย