กรมควบคุมโรค แถลงผลงานโครงการขับเคลื่อนการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี พร้อมชวนประชาชนที่เกิดก่อนปี 2535 ตรวจคัดกรองโรคด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงผลการดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่การเกิดภาวะตับแข็งและมะเร็งตับ โดยผู้ป่วยมะเร็งตับมีมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และในแต่ละปีจะพบผู้ป่วยมะเร็งตับ ประมาณ 22,000 คน ซึ่ง 70 % ของผู้ป่วยมะเร็งตับเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ปัจจุบันโรคไวรัสตับอักเสบ ซี มียาต้านไวรัสคุณภาพสูง สามารถรักษาให้หายขาดได้ และโรคไวรัสตับอักเสบ บี มีวัคซีนป้องกันตามแผนการให้วัคซีนของประเทศสำหรับเด็กไทยทุกคน

ในปี 2567 กรมควบคุมโรคได้ดำเนินการคัดกรอง พบผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบถึง 2.4 ล้านคน พบว่าผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี มีจำนวนกว่า 60,000 คน และไวรัสตับอักเสบ ซี มีจำนวนกว่า 20,000 คน ซึ่งในอนาคตหากไม่ได้รับการคัดกรองและรักษา จะกลายเป็นมะเร็งตับประมาณ 15,000 คน และเป็นตับแข็งได้ไม่น้อยกว่า 32,000 คน และจะทำให้ประหยัดค่ารักษามะเร็งตับได้ในอนาคตถึง 4,000 ล้านบาท

ดังนั้น กรมควบคุมโรค จึงขอเชิญชวนประชาชนที่เกิดก่อนปี 2535 หรืออายุ 32 ปี ขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน เข้ารับการตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวในสถานพยาบาลของรัฐ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งตับและตับแข็งได้ในอนาคต