‘เพิ่มพูน’ ย้ำปลูกฝังเยาวชน “ห่างไกลยาเสพติด รู้รักสามัคคี เทิดทูนสถาบัน” และมอบรางวัลเชิดชูเกียรติเสมา ป.ป.ส. ประเภทผลงานดีเด่น ระดับเพชร ประจำปีการศึกษา 2566

23 กันยายน 2567 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติเสมา ป.ป.ส. ประเภทผลงานดีเด่น ระดับเพชร ประจำปีการศึกษา 2566 ณ ห้องประชุมไดมอนด์ ฮอลลล์ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. กล่าวตอนหนึ่งว่า ยาเสพติดเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยพวกเราต้องช่วยกันดำเนินการ เชื่อว่าทุกท่านที่ได้รับรางวัลวันนี้มีความตั้งใจสูงในการช่วยกันผลักดันยาเสพติดให้ออกไปจากสังคม โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ที่อยู่ในการดูแลของพวกเรา ซึ่งยังมีเรื่องที่เป็นห่วงก็คือทำไมปราบปรามเท่าไหร่ก็ยังไม่หมดสักที เราอาจจะมาไม่ถูกทางหรือไม่

จึงต้องฝากถึงทุกหน่วยงานช่วยกันคิดช่วยกันดูว่าเป็นเพราะอะไร อาจเพราะไม่ได้ถอนรากถอนโคนหรือไม่ เหมือนเวลาตัดต้นไม้ เราตัดแค่กิ่ง ก้าน ใบ แต่ไม่ได้ถอนไปถึงหัวใจของต้นคือรากและโคน ซึ่งในมิติของการศึกษาต้องทำให้เด็กมีภูมิคุ้มกันตั้งแต่ชั้นเด็กเล็ก โดยครูและผู้บริหารทุกคนถือว่าเป็นเบ้าหลอม ถ้าหากเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น มุ่งมั่นที่จะกระจายเครือข่ายไปยังสถานศึกษาใกล้เคียงอื่น ๆ ช่วยกันคนละไม้คนละมือก็ย่อมประสบผลสำเร็จ

“สิ่งที่เราต้องทำเพิ่มขึ้นมา คือ ปลูกฝัง ทำให้เด็กเรียนรู้ เข้าใจพิษภัยของยาเสพติด เช่น ปลูกฝังให้เด็กมองยาเสพติดเหมือนสิ่งปฏิกูล ซึ่งเป็นสิ่งสกปรก ไม่น่าเข้าใกล้ ไม่มีใครอยากไปจับหรือสัมผัส เป็นของที่ไม่ดี เพราะเด็กส่วนใหญ่ที่ไปลองยาเสพติดนั้น เขาคิดเพียงแต่ว่าเท่ นอกจากนี้สิ่งที่อยากจะขอย้ำให้ปลูกฝังอย่างเข้มแข็งที่สุด คือ ห่างไกลยาเสพติด รู้รักสามัคคี เทิดทูนสถาบัน โดยปลูกฝังให้เขาห่างไกลยาเสพติด รู้รักสามัคคี เช่น การทำงานต่าง ๆ ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจกันจะช่วยให้สังคมมีความสุข ส่วนเทิดทูนสถาบัน เป็นนโยบายที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญ โดยมีการ MOU ร่วมกัน 4 กระทรวง เพราะสถาบันคือเสาหลักแห่งชาติ ชาติจะอยู่ได้ก็เพราะสถาบัน โดยเฉพาะพระมหากษัตริย์ ที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในบ้านเมือง สถาบันพระมหากษัตริย์ก็จะเข้ามาเป็นหลักในการช่วยเหลือทำให้ทุกอย่างสงบลง อย่างเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ก็ได้ส่งความช่วยเหลือถุงพระราชทาน โรงทาน แม้แต่น้ำลดแล้วก็ได้ส่งเครื่องฉีดน้ำไปช่วยชะล้างทำความสะอาดฟื้นฟูบ้านเมือง เป็นสิ่งที่ท่านทรงเป็นห่วงประชาชนทุกคนมาตลอด ดังนั้นเราจึงต้องรักและเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ขอฝากให้ไปขยายผลต่อ เชื่อว่าจะเป็นแนวในการป้องกันยาเสพติดได้เป็นอย่างดี เพื่อให้นโยบายเรียนดีมีความสุขของเราดำเนินไปได้อย่างถูกต้องตรงวัตถุประสงค์และมีประสิทธิภาพ” รมว.ศธ. กล่าว

นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลได้มีนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและกำหนดให้เป็นนโยบายเร่งด่วน ที่ทุกภาคส่วนจะต้องบูรณาการแผนงานและกลไกการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบให้เป็นรูปธรรม โดยได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้กับนักเรียน นักศึกษา และเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาแพร่ระบาดในสถานศึกษา

โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติด และอบายมุข จึงเป็นโครงการสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สถานศึกษาเกิดการทำงานอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่อง และยั่งยืน ภายใต้มาตรการ 5 ด้าน ได้แก่ มาตรการป้องกัน มาตรการค้นหา มาตรการดูแลรักษา มาตรการเฝ้าระวัง และมาตรการบริหารจัดการ โดยใช้ “กลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่” คือ ต้องมียุทธศาสตร์ ต้องมีแผนงาน ต้องมีระบบข้อมูล และต้องมีเครือข่าย และ 2 ไม่ คือ ไม่ปกปิดข้อมูล และไม่ไล่ผู้เรียนออก

การประเมินผลงานตามเกณฑ์เป็น “สถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข” ประเภทผลงานดีเด่น ระดับเพชร ประจำปีการศึกษา 2566 มีสถานศึกษาได้รับรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 453 แห่ง ซึ่งจะเป็นแบบอย่างให้สถานศึกษาในสังกัดเรียนรู้กระบวนการดำเนินงานที่เป็นระบบ มีเครือข่ายการทำงานร่วมกับหน่วยงาน/สถานศึกษาที่มีความเข้มแข็ง ต่อเนื่อง และยั่งยืน ส่งผลให้นักเรียนมีภูมิคุ้มกันยาเสพติด มีทักษะชีวิต สามารถแก้ปัญหาเมื่อเผชิญกับปัญหายาเสพติด และไม่เป็นนักเสพยาเสพติดรายใหม่