อย. เพิ่มมาตรการใหม่ในการควบคุมยาอันตรายกลุ่มเสี่ยง และเน้นย้ำบทลงโทษหากฝ่าฝืนกฎหมาย

นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาการนำยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงไปใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะยาน้ำแก้แพ้ แก้ไอที่นำไปใช้ผสมสูตร 4×100 มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นและกระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้เพิ่มมาตรการในการควบคุมการนำยาอันตรายกลุ่มเสี่ยง ทั้งยาทรามาดอลและยาน้ำแก้แพ้ แก้ไอ เพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการสำหรับมาตรการใหม่ที่จะนำมาบังคับใช้ เพื่อปิดช่องทางการหลุดลอดของยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงออกนอกระบบ ซึ่งผู้ประกอบการด้านยาที่เกี่ยวข้องกับยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงได้ให้ความร่วมมือกับ อย. ในการควบคุมการขายยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงไปใช้ในทางที่ผิด และในระหว่างนี้ อย.ได้เสนอ ให้มีการปรับสถานะของยาทรามาดอลให้เป็นยาควบคุมพิเศษ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ขอให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมที่มีอยู่เดิมอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่การรายงานการขายเภสัชเคมีภัณฑ์ ไปจนถึงการรายงานการขายยาในร้านขายยา รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ลักลอบผลิตและขายยาอันตรายกลุ่มเสี่ยง และขอให้ผู้รับอนุญาตที่มีทะเบียนตำรับยากลุ่มเสี่ยง ทั้งยาทรามาดอลและยาน้ำแก้แพ้ แก้ไอ และผู้รับอนุญาตที่ขายยาน้ำแก้แพ้ แก้ไอ ให้ความสำคัญและตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ขายยาให้แก่บุคคลที่นำยาไปใช้ในทางที่ผิด หรือเพื่อการเสพติด มอมเมาเยาวชน ส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมตามมา และเน้นย้ำสำหรับผู้ที่ลักลอบผลิตและขายยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงนี้ จะมีโทษทั้งจำและปรับ แม้เป็นผู้รับอนุญาตด้านยาหากพบผลิตหรือขายยาปลอม นอกจากจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตอีกด้วย

รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวเพิ่มเติมว่า หากผู้บริโภคพบร้านขายยาที่มีการขายยาทรามาดอลให้แก่เยาวชนหรือขายยาดังกล่าวโดยไม่มีเภสัชกรประจำร้าน สามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรืออีเมล : 1556@fda.moph.go.th ทั้งนี้ เพื่อ อย. จะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป