รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันโยกย้ายตามวาระและความเหมาะสม ให้มีการหมุนเวียนตามภารกิจหน้าที่ มั่นใจผู้บริหารทุกคนมีศักยภาพในการทำงานเพื่อประโยชน์ของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าอยู่ในตำแหน่งใด
วันที่ 4 กันยายน 2562 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า การโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงครั้งนี้เป็น ตามวาระ เป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตามภาระหน้าที่ ที่ต้องดำเนินการรวดเร็วเพื่อให้การดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขต่อเนื่อง คนที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่จะได้เตรียมตัวรับงานในตำแหน่งที่มอบหมาย เช่น นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ จากเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับมอบหมายให้เป็นอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เพื่อทำงานของกระทรวงอีกด้านคือ การพัฒนาศักยภาพ อสม. ค่าตอบแทน อสม. ให้ อสม.เป็นหมอประจำบ้าน งานสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการจัดการผู้รับเหมาก่อสร้างที่ทิ้งงาน ซึ่งอยู่ภายใต้การทำงานของ กรม สบส. ส่วน นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม จากรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ อย. ซึ่งทั้ง 2 ท่าน มีประสบการณ์ในการทำงานในกรมที่มอบหมาย ผมมั่นใจและมองเห็นศักยภาพว่าทั้ง 2 ท่านทำงานต่อได้ทันที
สำหรับนายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เขตสุขภาพที่ 9 ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมอนามัย ให้เป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาล ให้เป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยทั้งสองท่านถือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในด้านการบริหารงาน
“ส่วนที่มีกระแสว่าการโยกย้ายครั้งนี้ มาจากประเด็นกัญชา ผมยืนยันว่าเรื่องกัญชาเป็นแค่เรื่องหนึ่งของการดำเนินงานตามนโยบายของ รมว.สธ. ไม่เกี่ยวกับการโยกย้าย ถึงเวลาก็สับเปลี่ยนโยกย้ายการทำงานกัน ตามวาระ ให้มีการหมุนเวียนตามภารกิจ หน้าที่ ยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้าย เป็นไปตามวาระ แทนคนเกษียณ และเป็นบุคลากรที่เหมาะสม มีศักยภาพ ทำงานที่เป็นประโยชน์ ให้กับกระทรวงสาธารณสุขได้ และเป็นการเรียนรู้งานในทุก ๆ ด้าน แต่ละท่านยังมีอายุราชการอีกตั้ง 3-4 ปี ถึงเวลาที่เหมาะสมทุกคนก็จะได้มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม เพื่อก้าวสู่การเป็นการเป็นผู้บริหารสูงสุดต่อไป” นายอนุทินกล่าว