วันที่ 12 กันยายน 2567 เวลา 12.00 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย ตนมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ได้กำชับให้กรมอุตุนิยมวิทยาทั้งส่วนกลาง ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาค และสถานีอุตุนิยมวิทยาที่กระจายอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ พยากรณ์อากาศ ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเตือนประชาชนอย่างทั่วถึงและทันท่วงที
โดยวันนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือน เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 13-17 ก.ย. 2567 จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ เช่น บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังค่อนข้างแรง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยในช่วงวันที่ 14-17 ก.ย. 67 บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง
นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ทั้งทางเว็บไซต์ www.tmd.go.th โทรศัพท์สอบถามสภาพอากาศที่หมายเลข 0-2399-4012-13 และสายด่วน 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดตามทางสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊กแฟนเพจ กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อจะได้รับทราบข่าวสารที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนได้ทันเวลา ขอเน้นย้ำว่า กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะติดตามสถานการณ์ และรายงานให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบข้อมูลล่วงหน้าอย่างทั่วถึง ตลอดจนบูรณาการข้อมูลร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารและการแจ้งเตือนภัยได้ทันเวลา รองนายกฯ และ รมว. ดีอี กล่าวในตอนท้าย