อัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. อยู่ที่ 0.35% คาดกำลังซื้อที่แผ่วลงกดดันอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2567 ต่ำกว่า 1%

Key Highlights

  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. อยู่ที่ 0.35%YoY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ 83%YoY จากราคาหมวดพลังงานที่กลับมาหดตัว 3.10%YoY ตามราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินที่ปรับลดลง สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ประกอบกับ ราคาสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม และของใช้ส่วนบุคคล ยังหดตัวต่อเนื่อง ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.62%YoY เพิ่มขึ้นจากราคาอาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นสำคัญ ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 8 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 0.15%YoY ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.44%YoY
  • Krungthai COMPASS ประเมินว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่อง จากปัญหาหนี้ครัวเรือนในระดับสูง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของกระทรวงพาณิชย์ล่าสุดในเดือน ส.ค. อยู่ที่ 49.5 ถือเป็นระดับไม่เชื่อมั่นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปโดยเฉลี่ยทั้งปี 2567 มีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายที่ 1%

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. อยู่ที่ 0.35% ชะลอลงจากราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินที่ปรับลดลง ขณะที่ราคากลุ่มอาหารปรับเพิ่มขึ้น

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. ขยายตัว 0.35%YoY เติบโตในอัตราชะลอลงจากเดือนก่อนที่ 0.83%YoY สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.4%  [1]โดยราคาหมวดพลังงานกลับมาหดตัว 3.10%YoY ตามราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินที่หดตัวสอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่ราคาอาหารสดขยายตัว 1.93%YoY จากเดือนก่อนที่ 1.10%YoY ตามราคาผักสดที่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในบางพื้นที่ และราคาผลไม้สดที่สูงขึ้น ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลสารทจีน

อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.62%YoY จากเดือนก่อนที่ 0.52%YoY จากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องประกอบอาหาร เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าบางรายการยังหดตัวต่อเนื่อง เช่น เสื้อบุรุษและสตรี ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม และของใช้ส่วนบุคคล เป็นต้น ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 8 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 0.15%YoY ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.44%YoY

Implication:

  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในทิศทางที่แผ่วลง โดยตัวเลขเดือน ส.ค. ลดสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน อีกทั้งยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1% ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ราคาที่แผ่วลงส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับตัวลงของราคาพลังงานตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งสอดคล้องกับอุปสงค์ในตลาดโลกที่อ่อนแอลง นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากการปรับตัวลงของราคาสินค้าในหมวดเครื่องนุ่งห่มและเคหสถานเป็นสำคัญ ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้มีสัดส่วนรวมกันประมาณ 25% ของตะกร้าเงินเฟ้อ โดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ผลิตภัณฑ์ซักล้าง เครื่องใช้ส่วนบุคคลภายในบ้าน สะท้อนถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแรง มองต่อไปในช่วงที่เหลือของปี 2567 การบริโภคภาคเอกชนอาจเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำที่จะกดดันแรงซื้อต่อไป ทั้งจากปัญหาหนี้ครัวเรือนในระดับสูง ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังเปราะบาง โดยดัชนีของกระทรวงพาณิชย์ล่าสุดในเดือน ส.ค. อยู่ที่ 5 ซึ่งเป็นระดับไม่เชื่อมั่น (ค่าดัชนีต่ำกว่า 50) ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 Krungthai COMPASS ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปโดยเฉลี่ยทั้งปี 2567 มีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายที่ 1% จากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ โดยการบริโภคภาคเอกชนมีโอกาสที่จะแผ่วลงต่อเนื่องในระยะข้างหน้า

[1] อ้างอิงจาก Reuter Polls (as of September 2024)