“กรมประมง”…ประกาศข่าวดี!! “ไปรษณีย์ไทย” ขยายการให้บริการขนส่งปลาสวยงามและสัตว์น้ำมีชีวิตเพิ่มขึ้น 4 ชนิด ผ่านจุดรับฝาก 327 สาขาทั่วประเทศ เริ่ม 1 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

กรมประมง จับมือ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ขยายการให้บริการขนส่งปลาสวยงามและสัตว์น้ำมีชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 4 ชนิด รวมส่งได้แล้วทั้งสิ้น 7 ชนิดในรูปแบบ EMS ผ่านจุดรับฝาก 327 สาขาทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงและผู้ประกอบการ เริ่ม 1 กันยายน 2567 นี้

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมง ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการขนส่งปลาสวยงามและสัตว์น้ำมีชีวิต 3 ชนิด (ปลากัด ปลาสอด และปลาหางนกยูง) ผ่านระบบขนส่งไปรษณีย์ไทย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 เพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างโอกาสในการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำให้แก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงและผู้ประกอบการ ซึ่งบริการดังกล่าวได้รับความนิยมและอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก กรมประมงจึงร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ทดสอบความเป็นไปได้ในการขนส่งสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีก 4 ชนิด ได้แก่ กลุ่มหอยฝาเดียวและไข่หอย กบ ปลาไหล และพรรณไม้น้ำ เพื่อขยายจำนวนชนิดที่สามารถขนส่งด้วยรูปแบบ EMS โดยผลการทดสอบพบว่ามีอัตราการรอดของสัตว์น้ำอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับและเหมาะสมสำหรับการจัดส่งในรูปแบบ EMS ทั้งนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ประกาศพร้อมให้บริการจัดส่งสัตว์น้ำสวยงามและสัตว์น้ำมีชีวิตที่เพิ่มขึ้นทั้ง 4 ชนิด ผ่านจุดรับฝาก 327 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 นี้เป็นต้นไป โดยการขนส่งมีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
1. ควรห่อหุ้มหรือบรรจุสัตว์น้ำตามรูปแบบที่กรมประมงกำหนด และบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ของไปรษณีย์ไทย หรือบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และมีความแข็งแรง โดยผู้จัดส่งต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ ณ จุดบริการ ก่อนส่งสินค้าทุกครั้ง เพื่อติดสติ๊กเกอร์หรือประทับตราสัญลักษณ์ในการขนส่งสัตว์น้ำมีชีวิตบนบรรจุภัณฑ์
2. กรณีมีของเหลวในการขนส่งสัตว์น้ำมีชีวิต ต้องปิดผนึกบรรจุภัณฑ์ให้แน่นหนา เพื่อป้องกันการรั่วซึมที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าของตนเองและผู้อื่น
3. สัตว์น้ำที่บรรจุต้องมีความสมบูรณ์แข็งแรง และบรรจุในความหนาแน่นที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายต่อสัตว์น้ำในขณะขนส่งหรือเมื่อถึงมือผู้รับสินค้า
4. ผู้ส่งสัตว์น้ำมีชีวิตต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการมีไว้ในครอบครองและการค้าสัตว์น้ำ

อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดและขยายช่องทางขนส่งสัตว์น้ำมีชีวิตผ่านระบบขนส่งไปรษณีย์ไทย ถือเป็นการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่สำคัญในภาคการเพาะเลี้ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการปลาสวยงามและผู้ประกอบการจำหน่ายสัตว์น้ำมีชีวิต ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวก สนับสนุน ส่งเสริม การขยายช่องทางการตลาดให้แก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงและผู้ประกอบการ ให้ผลิตสัตว์น้ำที่มีคุณภาพรองรับความต้องการของตลาด ส่งผลให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ ตลอดจนเป็นการกระตุ้นภาคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและภาคการประมงให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลการขนส่งสัตว์น้ำมีชีวิตเพิ่มเติม ได้ที่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โทร. 0 2881 3869 หรือ Contact Center โทร. 1545 สำหรับเกษตรกรหรือผู้ประกอบการและผู้สนใจรายใดมีความประสงค์ที่จะจัดส่งสัตว์น้ำมีชีวิตชนิดอื่น ๆ ผ่านระบบการขนส่งของไปรษณีย์ไทย สามารถสอบถามข้อมูลและแจ้งความประสงค์ได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ได้ทุกแห่งทั่วประเทศ