พันปีหลวง ทรงอนุรักษ์และส่งเสริมผ้าไหมไทยสู่นานาชาติ เผยแพร่ Soft Power ผ้าไหมไทย “สุดาวรรณ” รมว.วธ.นำทีมจับมือสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย ก.อุดมศึกษา-ศึกษาธิการ จัดงาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13” ชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ครม.-ทูต 40 ประเทศเดินแฟชั่นโชว์สุดตระการตา อวดโฉมชุดผ้าไหมไทยฝีมือนักศึกษาไทย ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ที่หอประชุมกองทัพเรือ พร้อมโชว์ชุดผ้าไหมไทย วันที่ 1-8 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ สุขุมวิท
วันที่ 23 สิงหาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่ากระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธี แถลงข่าวงาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13” และโครงการประกวด “The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ดร.สุมาลี อุทัยเฉลิม นายกสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย นายเปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ ผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผู้แทนหน่วยงานรัฐ เอกชน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมและสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ห้องแกลลอรี 5 หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
ภายในงานแถลงข่าวมีการเสวนาเกี่ยวกับงาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13” และโครงการประกวด “The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” โดยดร.สุมาลี อุทัยเฉลิม นายกสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย นายเปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย นายสมปรารถนา สุขทวี รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายณฐภัทร สุขิตานนท์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และดร.กฤติญา วังหอม ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยผู้แทนสถานทูตและคู่สมรสของทูต 9 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา โมร็อกโก เอลซาวาดอร์ เคนยา มองโกเลีย อินโดนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาเรนห์ และโกตดิวัวร์ และการจัดแสดงชุดผ้าไหมไทยที่ชนะการประกวดโครงการ “The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023”
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่ากระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีนโยบายขับเคลื่อน Soft Power อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย 11 สาขาตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะสาขาการออกแบบและแฟชั่นได้ส่งเสริมการนำผ้าไทยและผ้าไหมไทยมาตัดเย็บเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย รองเท้า กระเป๋าและของใช้ต่างๆผ่านการดำเนินโครงการผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) เพื่อให้ประชาชนและชุมชนมีอาชีพ รายได้ ส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศและมุ่งสืบสานพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอนุรักษ์และส่งเสริมผ้าไหมไทยมายาวนาน และทรงเป็นผู้นำในการสวมใส่ผ้าไหมไทย ทำให้ผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก ดังนั้น วธ.ได้ร่วมกับสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานรัฐ เอกชนและเครือข่ายวัฒนธรรม จัดทำโครงการมหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13 ขึ้น เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2567 และสนับสนุนผ้าไหมไทยให้เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและนานาประเทศ
นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วธ. ร่วมกับสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทยและหน่วยงานต่างๆจัดงานมหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลกมานานกว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2555 และดำเนินการจัดงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้งานก้าวสู่ปีที่ 13 โดยไฮไลท์ของงานคือ การเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยคณะรัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาลไทย เอกอัครราชทูตและคู่สมรสและผู้แทนสถานทูต 40 ประเทศ และผลงานการออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไหมทุกชุดเป็นฝีมือของนิสิต นักศึกษาไทยในโครงการประกวด“The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” ทำให้ Soft Power ด้านการออกแบบและแฟชั่น รวมถึงผ้าไหมไทยได้รับการเผยแพร่สู่ระดับนานาชาติ นอกจากนี้ ผ้าไหมทุกผืนล้วนมาจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนได้สืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและสามารถสร้างอาชีพและรายได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ CPOT ผ้าไหมภายในงานด้วย
ดร.สุมาลี อุทัยเฉลิม นายกสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย กล่าวว่า งาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13” จัดขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ณ หอประชุมกองทัพเรือ ภายในงานมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและนิทรรศการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 39 จังหวัด การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ CPOT ผ้าไหมจาก 17 ร้านค้า และการแสดงศิลปวัฒนธรรม 2 ชุด ได้แก่ ชุดอลังการสุวรรณภูมิ ซึ่งนักแสดงแต่งกายที่จำลองมาจากชุดสตรีและบุรุษที่พบตามศิลปะวัตถุและโบราณวัตถุยุคต่างๆ มีขบวนแห่โคมยุคสุโขทัย ยุคอยุธยามีการเชิดหนังใหญ่ผสมผสานระบำรำฟ้อนและการเชิดหุ่นละครเล็กและยุครัตนโกสินทร์เป็นการแสดงศิลปร่วมสมัย รำไทยผสมการเต้นแจ๊ส บัลเลต์โมเดิร์น และชุดเส้นใยศิลป์จากท้องถิ่นสู่สากล เป็นการแสดงแฟชั่นโชว์ ชุดผ้าไหมไทย ประกอบด้วย 4 องก์ ได้แก่ 1.พิพัสตราภรณ์แห่งดินแดนสยาม มีการแสดงเต้นคอนเท็มร่วมสมัยและการเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยคณะรัฐมนตรีและตัวแทนรัฐบาลไทยจากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ 2.เส้นสายลายภูษาสู่ภูมิปัญญาชาวสยาม เป็นการแสดงเดี่ยวระนาด พร้อมการแสดงใส่หน้ากากเต้นและการเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยเอกอัครราชทูต 40 ประเทศ 3.อลังการแห่งผ้าไหมไทย มีการแสดงกลองสะบัดชัย กลองศึกและการแสดงระบำกลองและการเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยตัวแทนสถานทูต 33 ประเทศ และ4.สยามอาณาจักรแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น มีขบวนนางฟ้าและ การเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยกงสุลกิตติมศักดิ์และผู้แทน 20 ประเทศ รวมทั้งมีการเดินแฟชั่นโชว์รอบฟินาเล่ โดยคณะนักร้องประสานเสียง MU CHOIR โดยได้รับความร่วมมือจากกรมประชาสัมพันธ์และสื่อออนไลน์ของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆในการเผยแพร่กิจกรรมภายในงานไปสู่ประเทศต่างๆทั่วโลก นอกจากนี้ มีพิธีมอบรางวัลและจัดแสดงชุดผ้าไหมไทยที่ชนะการประกวด “The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ CPOT ผ้าไหมจาก 17 ร้านค้า ระหว่างวันที่ 1 – 8 กันยายน 2567 โดยจะมีพิธีมอบรางวัลในวันที่ 2 กันยายน 2567 ณ ชั้น 2 SPHERE GALLERY ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ ทั้งนี้ สอบถามและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊กกระทรวงวัฒนธรรมและสายด่วนวัฒนธรรม 1765