จากปรับโครงสร้างสู่ทางแก้หนี้สหกรณ์ เพาะเลี้ยงไม้ดอกเพิ่มรายได้ทางรอดสมาชิก สหกรณ์ฯ เมืองเก่า จก.

แม้จะเปลี่ยนชื่อจากสหกรณ์ผู้เช่าที่ดินที่ก่อตั้งเมื่อปี 2496 เป็นสหกรณ์การเช่าซื้อที่ดินเมืองเก่า จำกัด ในปี 2522 หลังสิ้นสุดการดูแลของนิคมสหกรณ์องครักษ์ จังหวัดนครนายก แต่สถานภาพของสหกรณ์กลับมีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสหกรณ์ดีเด่นในระดับจังหวัดทั้งในเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินสมาชิกที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้และโครงการส่งเสริมอาชีพ(เสริม)เพิ่มรายได้จนสามารถส่งเงินชำระหนี้คงค้างสหกรณ์กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม หลังจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครนายกร่วมกับคณะกรรมการสหกรณ์ฯเมืองเก่า จัดทีมโค้ชเข้าไปดูแลให้คำปรึกษาแนะนำถึงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ

“เฉพาะหนี้สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ 40 รายมีประมาณ 10 ล้าน ตอนนี้จ่ายคืนไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครนายกจัดทีมโค้ชเข้าไปดูแลแก้ปัญหา”นางสาวพลอยไพลิน แก้วมูลนา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการบริหารจัดการสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครนายก กล่าวถึงความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์เช่าซื้อที่ดินเมืองเก่า จำกัด ซึ่งเป็นความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาหนี้สินและพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยระบบสหกรณ์

แต่กว่าจะถึงจุดนี้ได้ไม่ง่าย โดยเธอระบุว่าขั้นแรกมีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ โดยมีทีมโค้ชจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครนายกเข้าไปร่วมกับสหกรณ์ฯเมืองเก่า โดยให้คำปรึกษาแนะนำ พร้อมแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ โดยเริ่มจากการคัดแยกอายุหนี้สมาชิก และมุ่งเป้าไปที่สมาชิกมีหนี้กำหนดชำระเร่งด่วน เพื่อเข้าไปพูดคุยรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น จนไม่สามารถชำระหนี้สหกรณ์ได้

“เบื้องต้นเข้าไปพูดคุยปัญหากับสมาชิก ทำไมมีหนี้ค้าง ชำระหนี้คืนสหกรณ์ไม่ได้ เท่าที่พูดคุยส่วนใหญ่มีปัญหาต่อเนื่องมาจากโควิด รายได้เขาลดลง เศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้มีปัญหาหนี้ค้างเกิดขึ้น พอเราทราบปัญหาแล้ว เราก็ถามเขาว่าอยากให้สหกรณ์ช่วยเหลืออะไรบ้าง ส่วนใหญ่ขอให้ปรับโครงสร้างหนี้ เราก็ปรับโครงสร้างหนี้ให้โดยขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป โดยขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป มีกำหนดชำระเสร็จภายใน 15 ปี และงดคิดดอกเบี้ย 3 ปีแรกแก่สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้”

นางสาวพลอยไพลิน แจงรายละเอียดต่อว่าสำหรับการขยายระยะเวลาการชำระหนี้แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 สัญญาต้นเงิน ส่วนที่ 2 สัญญาดอกเบี้ยและค่าปรับ โดยทั้ง 2 ส่วน ต้องชำระให้เสร็จภายใน 15 ปี ส่วนของต้นเงินจะงดคิดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี ส่วนดอกเบี้ยและค่าปรับเดิมก็จะแขวนไว้มีระยะเวลาชำระหนี้ที่ยาวนานขึ้นแต่ไม่เกิน 15 ปี หลังจาก 3 ปีถ้ายังมีเงินต้นคงเหลือจะเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 8 ต่อปี ส่วนที่2 จะไม่คิดดอกเบี้ยค่าปรับให้ชำระเสร็จภาย 15 ปี โดยในระหว่างนี้สหกรณ์ฯก็จะจัดหาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกเพื่อนำมาชำระหนี้กับสหกรณ์ต่อไป

“ในระยะ 15 ปี ช่วง 3 ปีแรกไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเลย ถ้าสมาชิกมีตังค์มาจ่ายตัดต้นไปเลย ตัดต้นให้หมดภายใน 3 ปี แล้วดอกเบี้ยและค่าปรับที่ค้างอยู่ก็จ่ายต่อไป 15 ปีโดยไม่คิดดอกเบี้ยอะไรอีกแล้ว ระหว่างนี้ก็หาอาชีพเสริมให้เพื่อให้เขามีรายได้มาชำระหนี้ จากข้อมูลรายงานของสหกรณ์ปรากฏว่าตอนนี้ มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการกันเยอะมาก มีหลายรายก็สามารรถชำระหนี้ได้ตามปกติไม่มีผิดนัด มีทั้งชำระหนี้เก่าคงค้างด้วย ชำระหนี้ปัจจุบันด้วย”ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการบริหารจัดการสหกรณ์คนเดิมเผย

เธอยังกล่าวถึงโครงการส่งเสริมอาชีพ(เสริม)สมาชิกหลังจากสหกรณ์ฯเมืองเก่าได้กู้เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์(กพส.) จากกรมส่งสริมสหกรณ์จำนวน 2 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 1 ปี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมาในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 โดยจะครบกำหนดส่งคืนในเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้ ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาจัดซื้อสินค้าปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยยาและเมล็ดพันธุ์พืชผักเพื่อจำหน่ายให้กับสมาชิก พร้อมปล่อยกู้ให้กับสมาชิกที่สนใจอีกทอดหนึ่ง โดยอาชีพเสริมที่ได้รับความสนใจจากสมาชิกส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเพาะเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับส่งตลาดคลอง15 ซึ่งเป็นตลาดไม้ดอกไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดนครนายก เลี้ยงปลา ปลูกพืชผักสวนครัว นอกจากยังมีปลูกหญ้าสนามเพื่อจำหน่ายให้กับสนามกอล์ฟและผู้รับเหมาสร้างบ้านจัดสรรอีกด้วย

“สหกรณ์ฯเมืองเก่าได้รับการประเมินเป็นสหกรณ์ชั้นหนึ่ง และปีนี้ (2567) ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดได้คัดเลือกเป็นสหกรณ์ดีเด่นระดับจังหวัดด้วย” นางสาวพลอยไพลินกล่าวย้ำ

ขณะที่ นางวัชรี ปัญญา ผู้จัดการสหกรณ์การเช่าซื้อที่ดินเมืองเก่า จำกัด กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันสหกรณ์ฯมีสมาชิกทั้งหมด 414 ราย อาชีพหลักคือทำนา ส่วนอาชีพเสริมปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ปลูกหญ้าสนาม เลี้ยงปลาและปลูกพืชผักสวนครัว โดยสหกรณ์จะเป็นผู้สนับสนุนด้านเงินทุน ปัจจัยการผลิต ตลอดจนดูแลเรื่องตลาด ภาพรวมล่าสุดสหกรณ์ฯปล่อยเงินกู้สมาชิกไปแล้วเกือบ 70 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริม ซึ่งการปล่อยกู้แต่ละรายวงเงินสุงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท ปัจจุบันสหกรณ์มีทุนดำเนินงานอยู่ที่ 90 ล้านบาท และจะมีกำไรทุกปี โดยปี 2566(ปิดงบ ณ 31 มีนาคม 2567 สหกรณ์มีกำไร อยู่ที่ 882,373.82 บาท ซึ่งรายได้หลักมาจากธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายและธุรกิจสินเชื่อ สิ่งสำคัญคือสหกรณ์จะดูแลเรื่องการประกอบอาชีพและบรรเทาปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิกสหกรณ์