สถานการณ์การท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 5 – 11 สิงหาคม 2567

นายเสริมศักดิ์​ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการประเมินเบื้องต้นพบว่าสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น จากการมีวันหยุดในหลายประเทศของกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) อาทิ การมีวันหยุดพิเศษ (เทศกาลโอบ้ง) ในญี่ปุ่น ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 79.39 และขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นอันดับที่ 4 จากเดิมในอันดับที่ 9 และการมีวันหยุดราชการในอินเดีย และมาเลเซีย ทั้งนี้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสะสมปีนี้แล้วกว่า 3 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.52 จากการท่องเที่ยวในช่วง Summer holiday ของภูมิภาคยุโรป สำหรับภาพรวมสัปดาห์นี้ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 751,419 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 41,182 คน หรือร้อยละ 5.80 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 107,346 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (169,355 คน) มาเลเซีย (95,869 คน) เกาหลีใต้ (37,414 คน) ญี่ปุ่น (37,017 คน) และอินเดีย (36,905 คน) โดยนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น อินเดีย มาเลเซีย และจีน มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้า ร้อยละ 79.39 ร้อยละ 14.74 ร้อยละ 9.15 และร้อยละ 3.17 ตามลำดับ ในขณะที่นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 14.55 สำหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาทรงตัว จากปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การมีวันหยุดปิดภาคเรียน (School holiday) ในเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น การเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว Summer holiday ของตลาดภูมิภาคยุโรป การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาล ช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก และการกระตุ้นให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 12 ส.ค. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 11 ส.ค. 67 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 21,796,763 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,025,938 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (4,398,623 คน) มาเลเซีย (3,021,624 คน) อินเดีย (1,255,358 คน) เกาหลีใต้ (1,154,990 คน) และรัสเซีย (1,035,192 คน)