เมื่อวันที่ 27 ก.ค.67 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เปิดเผยว่า ขอแสดงความยินดีกับชาวไทย และชาวอุดรธานี ที่อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของไทย ในชื่อ “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมา สมัยทวารวดี” โดยถือเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 8 ของไทย และเป็นแห่งที่ 2 ของอุดรธานี ถือเป็นจังหวัดแรกของไทย ที่มีแหล่งมรดกโลก 2 แหล่ง คือ แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง และ “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมา สมัยทวารวดี” ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทยได้มีแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง ตนขอขอบคุณคณะทีมผู้แทนไทย ที่นำโดย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว หัวหน้าคณะผู้แทนไทย นายประเสริฐ ศิรินภาพร เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทีมงานทุกคน รวมถึงทุกฝ่ายที่ได้ร่วมกันทำให้งานนี้สำเร็จลุล่วง สร้างความปลาบปลื้มใจแก่คนไทย และยังเป็นของขวัญชิ้นสำคัญในการในวาะมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเอยู่หัว ในวันที่ 28กรกฎาคม 2567 ด้วย
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า นอกจากภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมา สมัยทวารวดี แล้ว เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ยังได้เห็นชอบให้บรรจุแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม สงขลา และชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา ซึ่งประกอบด้วย 4 พื้นที่ ได้แก่ (1) เมืองโบราณพังยาง เมืองโบราณพะโคะ และเมืองโบราณสีหยัง (2) เมืองโบราณสทิงพระ (3) เมืองป้อมค่ายซิงกอร่า ณ เขาแดง และแหลมสน และ (4) เมืองเก่าสงขลา บ่อยาง เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลก ในฐานะประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก พร้อมให้การสนับสนุนให้แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมสงขลาฯสู่การเป็นแหล่งมรดกโลกต่อไป