วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ได้จัดงานพิธีมอบรางวัล เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติพุทธศักราช 2567 โดย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานมอบรางวัล โดยมีนางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมผู้บริหาร ผู้ทรงคุณวุฒิ เครือข่ายวัฒนธรรมร่วมงาน ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
นางยุพา กล่าวว่า ประเทศไทย เป็นประเทศหนึ่งที่มีภาษาพูดและภาษาเขียนเป็นของตัวเอง เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ชาวไทยทุกคนภาคภูมิใจ จากประวัติศาสตร์และหลักฐานการประดิษฐ์อักษรไทยที่ปรากฏตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 730 ปี ซึ่ง “ภาษา” เป็นสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาและยุคสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ที่มีการประดิษฐ์คิดค้นวิธีการติดต่อสื่อสารในรูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิธีการใช้ภาษาโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ดังนั้น เพื่อให้การติดต่อสื่อสารโดยการใช้ภาษาไทยเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม ให้ประชาชนได้ตระหนักและร่วมกันสืบสานภาษาไทยให้ยั่งยืน
ดังพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พุทธศักราช 2505 ว่า “ภาษาไทยนั้น เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของชาติ ภาษาทั้งหลายเป็นเครื่องมือของมนุษย์ชนิดหนึ่ง คือ เป็นทางสำหรับแสดงความคิดเห็นอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่สวยงามอย่างหนึ่ง เช่น ในทางวรรณคดี เป็นต้น ฉะนั้น จึงจำเป็นต้องรักษาเอาไว้ให้ดี เราโชคดีที่มีภาษาของตนเอง มาแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้”
นางยุพา กล่าวอีกว่า กระทรวงวัฒนธรรมตระหนักถึงการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง เหมาะสม เพื่อร่วมกันสร้างค่านิยมและจิตสำนึก ทั้งส่งเสริมให้เด็ก เยาวชนและประชาชนเห็นความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย ในโอกาสนี้ ต้องขอแสดงความยินดี แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติในวันนี้ อีกทั้งขอชื่นชมและขอขอบคุณ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ดำเนินการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 และขอให้มีความภูมิใจในสิ่งที่ได้ดำเนินการด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ และขอให้ดำรงรักษาความดีงามนี้ไว้ เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชนของชาติต่อไป
ปีพุทธศักราช 2567 นี้ นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีการมอบรางวัลให้แก่บุคคลและองค์กรที่ได้เข็มและโล่เชิดชูเกียรติทางด้านภาษาไทย แบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1) ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย จำนวน 2 ราย ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พรทิพย์ พุกผาสุข และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิวกานท์ ปทุมสูติ
2) ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น จำนวน 11 ราย ได้แก่ 1.นางเทพี จรัสจรุงเกียรติ 2.นายชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล 3.นายณรงค์ฤทธิ์ คิดเห็น 4.นายธีระพงษ์ โสดาศรี 5.นางนันทพร แสงมณี 6.นางสาวปาริฉัตร ศาลิคุปต 7.นายแพทย์พงศกร จินดาวัฒนะ 8.ผู้ช่วยศาสตราจารย์วีรวัฒน์ อินทรพร 9.นายศราวุธ สุดงูเหลือม 10.ผู้ช่วยศาสตราจารย์สรตี ปรีชาปัญญากุล และ 11.นายสุภาพ คลี่ขจาย
3) ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น จำนวน 4 ราย ได้แก่ 1.นายไกรสร ฮาดคะดี 2.นายณรงค์ศักดิ์ กำเนิดทอง 3.นายปราโมทย์ ในจิต และ นายเอ็ด ติ๊บปะละ
และ 4) ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย จำนวน 1 องค์กร ได้แก่ สถาบันสุนทรภู่
ในส่วนของรางวัลเพชรในเพลง โดยกรมศิลปากร รวม 14 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลการประพันธ์เพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จำนวน 4 รางวัล ได้แก่ 1.รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล ได้แก่ นายปัณฑพล ประสารราชกิจ และนายธิติวัฒน์ รองทอง จากเพลงลั่นทม 2.รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล ได้แก่ นายกฤตศิลป์ ฉลองขวัญ จากเพลงดอกไม้จากดวงดาว 3.รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แก่ นายจิรภัทร แจ่มทุ่ง จากเพลงยามท้อขอมีเธอ 4.รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แก่ นายสลา คุณวุฒิ จากเพลงอยากซื้อบ้านนอกให้แม่
รางวัลการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จำนวน 8 รางวัล ได้แก่ 1.รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย ได้แก่ นายภาสกรณ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์ (สปาย) จากเพลงคอย 2.รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย ได้แก่ นายธานินทร์ อินทรแจ้ง (ธานินทร์ อินทรเทพ) จากเพลงเดือนประดับใจ 3.รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง ได้แก่ นางสาวสรวีย์ ธนพูนหิรัญ (ผิงผิง) จากเพลงดอกไม้จากดวงดาว 4.รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง ได้แก่ นางสาวปราชญา ศิริพงษ์สุนทร จากเพลงมรดกธรรม มรดกโลก 5. รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย ได้แก่ นายอนันต์ อาศัยไพรพนา (นัน อนันต์) จากเพลงยามท้อขอมีเธอ 6.รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย ได้แก่ นายเสมา สมบูรณ์ (ไชยา มิตรชัย) จากเพลงรอยยิ้มก่อนจากลา 7.รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่ นางสาวสุทธิยา รอดภัย (ใบเฟิร์น สุทธิยา) จากเพลงกราบหลวงพ่อใหญ่อ่างทอง และ 8.รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่ นางสาวกาญจนา มาศิริ จากเพลงสารภาพรัก และรางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษ จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ ครูเพลงผู้ใช้ภาษาวรรณศิลป์ดีเด่น นายชัยรัตน์ วงศ์เกียรติ์ขจร และ รางวัลนักแปลเพลง : คมความ งามคำไทย ในบทเพลง นายธานี พูนสุวรรณ
และยังมีการมอบรางวัลประกวดเพลงแรป “บอกรักษ์ภาษาไทย” 3 รางวัล ในบริเวณหน้างานมีการจัดนิทรรศการ ประวัติและผลงานของผู้ที่ได้รับรางวัล อีกด้วย นอกจากนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (สป.) ได้เชิญชวนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยร่วมจัดทำวีดิทัศน์ เพื่ออนุรักษ์และรณรงค์ส่งเสริมการใช้ภาษาไทยของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ นำมาจัดฉายในงานวันภาษาไทยแห่งชาติ