19 สว บุกอภัยภูเบศร ดูงานกัญชา เชื่อทันทีที่ประกาศกฎกระทรวง ปัญหาต่างๆ จะคลี่คลาย

สมาชิกวุฒิสภา 19 คน พร้อมคณะ เดินทางมายังโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เพื่อติดตามปัญหาการดำเนินงานของจังหวัด และดูงานด้านกัญชาในฐานะได้รับอนุญาตให้เป็นหน่วยงานที่สามารถ ปลูก ผลิต และจำหน่าย (เพื่อการรักษา) ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 กัญชา ภายใต้โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออก

โดย ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานยุทธศาสตร์การแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้บรรยายสรุปให้กลุ่ม สว.ฟัง ถึงดำเนินโครงการกัญชาโมเดล “โดยสถานการณ์ทั่วไปของ รพ.รัฐ คือขาดทุน ทำให้เป็นปัญหาต่อการพัฒนา ทำให้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นมา ทำการพัฒนายาสมุนไพรขาย แบ่งกำไร 70% หรือกว่า 30 ล้านบาท/ปี ให้กับ รพ. โดยเป้าหมายของอภัยภูเบศร คือการช่วยสังคม ช่วยแก้ปัญหาของประชาชน การพัฒนาสมุนไพรที่ผ่านมาทั้งหมด เกิดจากการต้องการแก้ปัญหาให้ประชาชน เช่นเดียวกับ กัญชาทางการแพทย์ การขับเคลื่อนสร้างโมเดลด้านนี้ขึ้นมา เนื่องจากประชาชนขาดที่พึ่ง และเกิดกระแสการใช้กัญชาในการรักษาโรคที่ผิด และมองเห็นว่าเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อแก้วิกฤติของประเทศได้ จึงเริ่มทำการศึกษาข้อมูล วางระบบตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ การปลูก การสกัด และจัดตั้งคลินิกกัญชาทางการแพทย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นแห่งแรกในอาเซียน และเชื่อว่าหากเราสร้างระบบที่ดี กัญชาทางการแพทย์จะเป็นที่พึ่งของโลกได้”

ทั้งนี้ สว.ที่เข้าร่วมประชุม ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยสรุปว่า ต้องให้เครดิตรัฐบาลที่ผลักดันให้คลายล็อคกัญชา เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมองว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายนำเข้าส่งออกกัญชา มีเพียงประกาศของกระทรวงเท่านั้น คาดว่าเร็ว ๆ นี้จะมีกฎกระทรวงมาบังคับใช้ และเมื่อนั้นเงื่อนไขและข้อติดขัดต่าง ๆ น่าจะคลี่คลายได้ในแง่ของวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าอีกไม่นานภาคประชาชนก็น่าจะเสนอการปลดล็อคกระท่อม พืชเป็นยาอีกชนิดที่มีประโยชน์ในทางการแพทย์สูง ซึ่งก็ต้องดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป โดยดูเรื่องความเหมาะสมทางด้านสังคม และกฎหมาย ความปลอดภัย และความคุ้มค่าต่อการลงทุนเป็นหลัก