กตส.สืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำบัญชีเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศ

เนื่องในเดือนมหามงคลซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 72 พรรษา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมสืบสานพระราชปณิธาน นำบัญชีเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศ ผ่านโครงการตามพระราชดำริ เพื่อแก้ไขปัญหาของพสกนิกรที่ประสบปัญหา บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในโอกาสคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยความวิริยะอุตสาหะ เพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชนมาอย่างยาวนาน ตามพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมสนองงานตามพระราชดำริ เพื่อแก้ไขปัญหาของพสกนิกรที่ประสบปัญหา บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยร่วมบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการส่งเสริมให้เกษตรกรในโครงการตามพระราชดำริ มีการจัดทำบัญชี สามารถนำข้อมูลทางบัญชีไปใช้ในการวางแผนประกอบอาชีพของตนเอง อันจะนำไปสู่ความสำเร็จในการประกอบอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการตามพระราชดำริ เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ด้านบัญชีไปใช้ประโยชน์ ต่อยอดการประกอบอาชีพได้ อาทิ

โครงการเกษตรวิชญา จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโครงการในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมอบที่ดินส่วนพระองค์ในพื้นที่บ้านกองแหะ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อดำเนินการในลักษณะคลินิกเกษตร เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีการเกษตรจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งเพื่อเป็นการฟื้นฟูและอนุรักษ์สภาพแวดล้อมให้เกิดระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ โดยกรมฯ ได้เข้าร่วมบูรณาการอบรมการจัดทำบัญชีต้นทุนอาชีพให้แก่เกษตรกร ในพื้นที่โครงการฯ เพื่อให้มีการพัฒนาความรู้ด้านบัญชี สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางบัญชีไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการประกอบอาชีพ สร้างความเข้มแข็งให้แก่ตนเอง ครอบครัว และชุมชน มีการติดตามผลและกระตุ้นให้เกษตรกรจัดทำบัญชีอย่างต่อเนื่อง และคัดเลือกเกษตรกรตัวอย่าง เพื่อเป็นต้นแบบให้กับเกษตรกรรายอื่น ๆ

นอกจากนี้ ยังร่วมบูรณาการอบรมการจัดทำบัญชีต้นทุนอาชีพแก่เกษตรกรในโครงการพัฒนาพื้นที่หนองอึ่งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดยโสธร และ โครงการพัฒนาอ่างเก็บน้ำลำพันชาดน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุดรธานี

โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กรมฯ ได้เข้าร่วมบูรณาการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ประจำตำบล ดําเนินงานในรูปแบบการบูรณาการนักวิชาการแต่ละสาขา ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ ประมง และบัญชี ฯลฯ โดยกรมฯ รับผิดชอบในการเสริมสร้างความรู้และบริการให้คำปรึกษาแนะนำการจัดทำบัญชีแก่เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถบันทึกรายรับ รายจ่ายประจำวัน ทำให้ทราบฐานะการเงินของตนเอง และวางแผนการประกอบอาชีพได้โดยมีสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ 77 จังหวัด จัดตั้งหน่วยปฏิบัติงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ประจำจังหวัด เพื่อให้ความรู้การจัดทำบัญชีรับ – จ่ายในครัวเรือน บัญชีต้นทุนอาชีพ บัญชีต้นกล้าเศรษฐกิจพอเพียง และให้คำปรึกษาแนะนำแก้ไขปัญหาด้านบัญชีแก่เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ ยังแนะนำการใช้โปรแกรมบัญชีรายบุคคล SmartMe ซึ่งเป็น Mobile Application ที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายสามารถจดบันทึกข้อมูลบัญชีบนสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีการดำเนินงาน ดังนี้ 1) โครงการเกษตรวิชญา จังหวัดเชียงใหม่ 2) โครงการพัฒนาพื้นที่หนองอึ่งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดยโสธร 3) โครงการพัฒนาอ่างเก็บน้ำลำพันชาดน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุดรธานี โดยสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์เชียงใหม่ ยโสธร และอุดรธานี อบรมการจัดทำบัญชีต้นทุนอาชีพให้แก่เกษตรกร รวม 60 ราย และ 4) โครงการเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ โดยสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ ทั้ง 77 จังหวัด ร่วมจัดนิทรรศการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ จังหวัดละ 4 ครั้ง รวม 308 ครั้ง