วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีประกาศผลรางวัลภาพยนตร์ไทย“ ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 32” ประจำปี 2566 โดยมีนางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายเกษมศักดิ์ วงศ์รัฐปัญญา (สนานจิตต์ บางสะพาน) ประธานชมรมวิจารณ์บันเทิง สมาชิกชมรมวิจารณ์บันเทิง คณะกรรมการตัดสินรางวัล ผู้กำกับภาพยนตร์ นักแสดง บุคลากรในวงการภาพยนตร์ไทย แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศผลและมอบรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมให้แก่ทีมผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “ดอยบอย” และรองปลัดกระทรวงวัฒนธรรมประกาศผลและมอบรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมให้แก่ นายนนทรีย์ นิมิบุตร จากภาพยนตร์ เรื่อง “มนต์รักนักพากย์”
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ร่วมกับชมรมวิจารณ์บันเทิงจัดงานประกาศผลรางวัลภาพยนตร์ไทย “ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 32” ประจำปี 2566 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ผลิตภาพยนตร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ นักแสดงและบุคลากรในวงการภาพยนตร์ไทย ขอแสดงความยินดีและชื่นชมผู้ได้รับรางวัลทุกท่าน ถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งของบุคลากรในวงการภาพยนตร์ไทย ซึ่งวธ.มีนโยบายส่งเสริมการผลิตภาพยนตร์ไทยที่มีคุณภาพและสนับสนุนการเผยแพร่ Soft Power ด้านภาพยนตร์ของไทยไปสู่ทั่วโลกตามนโยบายรัฐบาล เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยในเวทีนานาชาติ ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่คนไทยและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ สำหรับผลรางวัลภาพยนตร์ไทย “ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 32” ประจำปี 2566 มีทั้งหมด 19 รางวัล ดังนี้ 1) ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “ดอยบอย” อำนวยการสร้างโดยสุภัชา ทิพเสนา,Steve Chen, Daniel Mattes, Davy Chou (เนรมิตรหนังฟิล์ม , Mobile Lab Project,Anti-Archive) 2) ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ นนทรีย์ นิมิบุตร จากภาพยนตร์ เรื่อง “มนต์รักนักพากย์” 3) นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ ธิติยา จิระพรศิลป์ จากภาพยนตร์ เรื่อง “เธอกับฉันกับฉัน” 4) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ได้แก่ อวัช รัตนปิณฑะ จากภาพยนตร์ เรื่อง “ดอยบอย” 5) นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ อินทิรา เจริญปุระ จากภาพยนตร์ เรื่อง “4 Kings II” 6) นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ได้แก่ พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ จากภาพยนตร์ เรื่อง “เพื่อน(ไม่)สนิท” 7) บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ ภาพยนตร์ เรื่อง “ทะเลของฉัน มีคลื่นเล็กน้อย ถึงปานกลาง” โดยปฏิภาณ บุณฑริก , คาลิล พิศสุวรรณ 8) กำกับภาพยอดเยี่ยม ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักนักพากย์” โดยธีระวัฒน์ รุจินธรรม 9)ลำดับภาพยอดเยี่ยม ได้แก่ ภาพยนตร์ เรื่อง “เพื่อน(ไม่)สนิท” โดยชลสิทธิ์ อุปนิกขิต
10) ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักนักพากย์” โดยเอก เอี่ยมชื่น,ปิยะวิทย์ พลายเมือง 11) ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักนักพากย์” โดยชาติชาย พงษ์ประภาพันธ์ 12) เพลงจากภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ “รักแรก(First Love)” จากภาพยนตร์เรื่อง “รักแรก โคตรลืมยาก” (ประพันธ์โดยอัจฉริยา ดุลยไพบูลย์,ชลทัศน์ ชาญศิริเจริญกุล) 13) ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “The Last Breath of Sam Yan” โดยเปรมปพัทธ ผลิตผลการพิมพ์ , เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล,เสฏฐนันท์ ธนกิจโกเศรษฐ์ (Young Film TH) 14) นักทำหนังหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (รางวัลมูลนิธิเอสซีจี) ได้แก่ ธิติ ศรีนวล จากภาพยนตร์ เรื่อง “สัปเหร่อ” 15) ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม ระดับบุคคลทั่วไป ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “ภูมิกายา(The Physical Realm)” โดยสมพจน์ ชิตเกสรพงศ์, กฤษฎา ขำยัง
16) ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม ระดับนักเรียน-นักศึกษา(รางวัลปัณณวิชญ์) ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “The End of Paralyzed” โดยรชต สระทองเทียน ,พสธร วัชรพาณิชย์ 17) ภาพยนตร์สารคดีสั้นยอดเยี่ยม ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “รับเหมาพเนจร(The Man and the Machine) โดยเกียรติพงษ์ ลงเย , ยิ่งยง วงศ์ตาขี่ 18) รางวัลเกียรติคุณแห่งความสำเร็จ ได้แก่ ศุภวัฒน์ จงศิริ (ศุภอักษร) และ19) ภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดแห่งปี (รางวัลคมน์ อรรฆเดช) ได้แก่ ภาพยนตร์ เรื่อง “สัปเหร่อ” โดยไทบ้าน สตูดิโอ, มูฟวี่ พาร์ทเนอร์