วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2567 นายธกร เลาหพงศ์ชนะ โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดเทศกาลท่องเที่ยวเชิงผจญภัยกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 โดยมีนางจารุณี กาวิล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ผู้แทนกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 (ปราจีนบุรี นครนายก สระแก้ว จันทบุรี และตราด) เข้าร่วม ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โฆษกประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีเป้าหมายการสร้างรายได้ท่องเที่ยวในปี 2567 ให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาท และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช) ให้ทุกหน่วยร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism การขับเคลื่อนการบูรณาการเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด เพื่อส่งเสริมให้ทุกเมืองเป็นเมืองน่าเที่ยว กระจายรายได้ให้กับชุมชนการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วง Green Season และการประชาสัมพันธ์ปฏิทินการท่องเที่ยวในช่วงเดือน กรกฎาคม – กันยายน ให้มีการรับรู้อย่างทั่วถึงส่งเสริมให้แต่ละจังหวัดจัดกิจกรรม การท่องเที่ยวโดยเฉพาะเทศกาลและกิจกรรมกีฬาที่สร้างมูลค่าสูง
กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ได้เล็งเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล จึงได้จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย เป็นการตอกย้ำ อัตลักษณ์ความโดดเด่นของพื้นที่ โดยแคมเปญในปีนี้ใช้คำว่า “Journey East เที่ยวผจญภัยในแดนบูรพา” ประกอบด้วยการจัดเทศกาลการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในระหว่างในระหว่างวันที่ 2 – 4 สิงหาคม 2567 ณ ป่านันทนาการเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ในงานประกอบด้วยการจัดนิทรรศการการท่องเที่ยว การออกบูทแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว แพคเกจท่องเที่ยว การจัดการแสดงดนตรี โดยศิลปินที่มีชื่อเสียง การจัดกิจกรรมจำลองท่องเที่ยวเชิงผจญภัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ในระหว่างเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2567 ได้แก่ (1) “ปราจีนบุรีแคมป์ 2024” (จังหวัดปราจีนบุรี) (2) “ล่องแก่งนครนายก” (จังหวัดนครนายก) (3) “แคมป์เดินป่าหาผีเสื้อปางสีดา” (จังหวัดสระแก้ว) (4) “พาย Sup board” (จังหวัดตราด) (5) “ปั่นกินลม ชมทะเล” (จังหวัดจันทบุรี)
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวภายใต้แคมเปญ Ignite Thailand ที่ส่งเสริมให้จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการส่งเสริมเมืองน่าเที่ยว และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่จังหวัด และเกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ