ททท. เร่งนำพลัง AI เพิ่มศักยภาพ “ท่องเที่ยว”

เมื่อเกือบทศวรรษที่ผ่านมา คิดว่าหลายคนคงเคยผ่านหูกับเรื่องของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ด้วยพลังของข้อมูล ใครมีข้อมูลมากกว่า และสามารถใข้ข้อมูลให้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า คำว่า ความสำเร็จ ของสิ่งที่ทำนั้นมักจะอยู่ไม่ไกล การมาของ AI หรือ Artificial Intelligent หรือการเข้ามาของ ChatGPT อย่างทุกวันนี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันเชิงประจักษ์ได้เป็นอย่างดี

เครื่องมือสื่อสาร ที่เติมนวัตกรรมด้วย AI หรือ ChatGPT ผู้ช่วยในโลกไอทีคนใหม่ได้กลายเป็นส่วนต่อขยายอวัยวะชิ้นที่ 33 หรือเครื่องมือสื่อสารเคลื่ยนที่ ที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะขาดไม่ได้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายิ่ง AI เติบโตขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งฉลาดขึ้นเท่านั้น AI สามารถให้คำตอบตั้งแต่เรื่องส่วนตัว ไปจนถึงการทำงาน อย่างเช่น วันนี้จะกินอะไรดี จะเดินทางอย่างไร จะเที่ยวที่ไหน จะทำงานอย่างไร จะจัดงบประมาณอย่างไรให้ลงตัว รวมไปถึงจะลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนักด้วยวิธีไหนให้เห็นผล ฯลฯ AI ออกแบบทางเลือกมาให้ได้หมด

สำหรับเรื่องท่องเที่ยวก็ต้องเรียกว่าตื่นตัวกับกระแสนี้เช่นเดียวกัน ทั้งในฟากของนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ เพราะความสามารถของ AI วันนี้สามารถเข้าถึงข้อมูลจำนวนมหาศาล แล้วนำมาวิเคราะห์ ออกแบบ การทำงานภายในช่วงเวลาอันสั้น

AI วันนี้ก็เป็นเสมือนเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษา แค่รู้สึกอยากเที่ยว แค่กดคำสั่ง ตัวเลือกสถานที่ก็พรั่งพรู หากยังไม่ตรงใจ ก็ใส่คำสั่งเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ตั้งแต่ใกล้บ้าน เที่ยวหนึ่งวัน หนึ่งอาทิตย์ งบประมาณ สถานที่พัก ราคา กระทั่งตัดสินใจ จะเดินทางอย่างไรก็บอกให้เสร็จสรรพ เรียกว่า มันทำหน้าที่เลขานักจัดการ หรือ คนวางแผนทริปให้นั่นเอง

จากการรายงานข่าวของต่างประเทศ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลายแห่งได้นำ AI มาใช้ในการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเจ้า AI สามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการบริการ ลดความซ้ำซ้อนของบุคลากร สร้าง Productivity ได้มาก โดยไม่เพิ่มงบประมาณ แถมยังลดต้นทุนลงได้อีกด้วย มีผู้ประกอบการหลายรายที่เริ่มนำ AI มาใช้ อาทิ สถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ตัวอย่างที่น่าสนใจเช่นกรณีของ booking.com ได้นำ ChatGPT มาใช้ในการให้คำแนะนำแก่ลูกค้า การจัดทำแผนการท่องเที่ยวที่ตรงใจ และสอดคล้องกับงบประมาณ ขณะที่ Airbnb ก็ใช้ AI ในส่วนของการตรวจสอบประวัติลูกค้า และกำหนดราคาอัจฉริยะด้วยอัลกอริธึม ซึ่งส่งผลให้ ต่อยอดจองเพิ่มขึ้นที่จับต้องได้จริง

ในการประชุม แผนตลาด ททท.ประจำปี 2568 ในฐานะผู้ว่า ททท. และ เป็นผู้ขับเคลื่อน PASS strategy ว่าด้วยตัว A : Accelerate to Digital World ได้กระตุ้นให้หน่วยงานต่างๆ ของ ททท. รวมถึงพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ให้ตระหนักถึงการเปลื่ยนแปลงที่สำคัญนี้ และนำ AI เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการ นำมาใช้ในการจัดการ Database รวมถึงใช้กุสโลบาย สอน AI ให้เรียนรู้ เรื่องดีๆของไทย โดยเฉพาะการใช้ Chat GPT ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานที่มีความคุ้นเคยกับเครื่องมือเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งผู้ว่า ททท. เชื่อว่าการใช้ AI หรือ การใช้ Chat GPT ในการจัดการและบริการในมิติต่างๆ ด้านการท่องเที่ยว นอกจากจะตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางรุ่นใหม่ๆ ที่ไม่ได้เฉพาะนักท่องเที่ยวคนไทย แต่จะสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวจากต่างแดนที่มีความคุ้นเคยกับการใช้บริการผ่าน AI หรือ Ghat GPT มาเป็นอย่างดี รวมถึงการทำให้บริการสร้างความสะดวก รวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี

และนี่คือพลังของข้อมูล และการนำข้อมูลจำนวนมหาศาลมาใช้ในการวางแผนและการจัดการ ผ่านนวัตกรรมที่เรียกว่า AI

#TATAP2025 #TATAP2568