กรมการแพทย์แผนไทยฯ ยกระดับแหล่งท่องเที่ยวชุมชน โฮมสเตย์ สร้างมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชูจุดขายแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร มุ่งหวังให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพกายและสุขภาพจิต ล่าสุด ผ่านการประเมินทั้งหมด 149 แห่งทั่วประเทศไทย สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 50 ล้านบาท

ดร.ภญ.มณฑกา ธีรชัยสกุล ผู้อำนวยการกองสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า จากแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 – 2570 กำหนดให้มียุทธศาสตร์นำสมุนไพรสร้างอาชีพ สร้างรายได้ในระดับพื้นที่เป้าหมายเมืองสมุนไพร 16 จังหวัด เพิ่มมูลค่าแก่ชุมชน แบ่งเป็น 3 กลุ่มต่อยอด GDP จังหวัด กลุ่มเกษตรวัตถุดิบ เน้นการปลูกและผลิตวัตถุดิบสมุนไพรให้ได้มาตรฐาน กลุ่มอุตสาหกรรม เน้นการยกระดับโรงงานให้มีมาตรฐาน และกลุ่มท่องเที่ยว เน้นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นความเชื่อมโยงของการพัฒนาสมุนไพร ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มุ่งพัฒนา และ ส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพที่ดีจากองค์ความรู้และภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร

โดยด้านท่องเที่ยว กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และเครือข่าย พัฒนาเกณฑ์ประเมินแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร ปัจจุบันมีแหล่งท่องเที่ยว ที่ได้รับมาตรฐานชุมชนโฮมสเตย์ ต่อยอดผ่านการประเมินทั้งสิ้น 149 แห่งทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้ชุมชน กว่า 50 ล้านบาท สำหรับชุมชนที่มีแหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ชุมชนท่องเที่ยววิถีชุมชน เช่น หมู่บ้านอาลึ จังหวัดสุรินทร์ ชูจุดเด่นวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนพื้นบ้าน นำสมุนไพรท้องถิ่น “ว่านเปราะหอม” มาแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์ แหล่งท่องเที่ยวที่มีอาหารถิ่นสุขภาพ เช่น สำรับจันท์ ของจันทบุรีที่ได้มีการต่อยอดสมุนไพรท้องถิ่น มาจัดทำเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ตุ๋นแกงชะมวงมะปี๊ด ห่อหมกปลาใบพริกไทยอ่อน หรือ ข้าวผัดพริกเกลือกระวาน นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้มีการนำเสนอบริการนวดเปลือกหอย ภูมิปัญญาพื้นบ้านจังหวัดกระบี่ สำหรับ การดูแลสุขภาพรวมถึงการนำสมุนไพรท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ ในแหล่งท่องเที่ยว และได้ซื้อกลับเป็นของฝาก เช่น ครีมขัดผิว ยาสระผมจากส้มซ่าซึ่งเป็นสินค้า OTOP ของชุมชน บ้านวังส้มซ่า ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วย ของ Banana Land จังหวัดเลย

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มุ่งมั่นพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สนับสนุนชุมชน ดึงดูดนักท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้ให้ชุมชน ส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้สมุนไพรไทยมากขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นอีกด้วย เชิญชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ผ่านภูมิปัญญาไทยและสมุนไพรทั่วประเทศ

การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ในปีนี้ จัดภายใต้แนวคิด “นวดไทย สปาไทย สมุนไพรไทยสู่เวทีโลก” ระหว่างวันที่ 3 -7 กรกฏาคม 2567 ฮอลล์ 11 – 12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย 6 โซน ได้แก่ โซนวิชาการ มีการประชุมและสัมมนาด้านแพทย์แผนไทยฯ โซน Service มีคลินิกให้คำปรึกษา ตรวจรักษาโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยฯ โซน Wisdom การนวดอัตลักษณ์ไทยและสมุนไพรอัตลักษณ์จาก 76 จังหวัด โซน Product ให้คำปรึกษาเรื่องการส่งออกและภาพรวมตลาดสมุนไพร โซน Wellness ให้บริการนวดไทย โชว์โมเดลสปาเพื่อสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ และโซน Innovation แจกต้นพันธุ์และเมล็ดพันธุ์สมุนไพรฟรี วันละ 1,000 ชิ้น เป็นต้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร.02 591 7007, อินสตาแกรม, TIKTOK, Facebook Fanpage มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติหรือ Website: https://natherbexpo.dtam.moph.go.th ,Line ID : @DTAM