นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรตอบสนองนโยบายขับเคลื่อนภาคการเกษตร “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อช่วยสร้างรายได้ สร้างโอกาส และสร้างคุณภาพชีวิตแก่เกษตรกร โดยบูรณาการการทำงานอย่างเข้มข้นกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดผลดีต่อเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น เพื่อเป็นการขยายโอกาสด้านการตลาดและโลจิสติกส์ให้กับเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตร กับ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX จึงได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาและส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตร (MOU) ขึ้น ในวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ณ บริเวณการจัดงาน “เกษตรพากิน พาเที่ยว @ลานคนเมือง” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานในการพัฒนาเกษตรกร และการจัดการระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทาน ได้แก่ กระบวนการส่งเสริมการผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพมาตรฐาน การบริหารจัดการสินค้า การบรรจุภัณฑ์ การบริหารสินค้าคงคลัง การตลาด ตลอดจนกระบวนการขนส่งและการส่งมอบสินค้าเกษตรสู่ผู้บริโภค รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือด้านการขนส่ง ระหว่างเกษตรกร กับเคอรี่ เอ็กซ์เพรส โดยทางบริษัทจะสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าว ด้วยการมอบส่วนลดอัตราพิเศษการจัดส่งสินค้าทางการเกษตรในราคาที่เหมาะสม ให้กับเกษตรกร พร้อมทั้งเน้นการบริการที่รวดเร็ว และการันตีสินค้าปลอดภัยจนถึงมือผู้บริโภค
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า ความร่วมมือทั้ง 2 หน่วยงานในครั้งนี้ จะทำให้เกษตรกรเข้าถึงบริการขนส่งสินค้าเกษตร ตั้งแต่ต้นทางจากเกษตรกรจนถึงปลายทางสู่มือผู้บริโภค รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ และเทคโนโลยีที่เหมาะสมระหว่างกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการร่วมมือในการพัฒนาการขนส่งสินค้าเกษตรที่สามารถส่งมอบสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพจากเกษตรกรถึงมือผู้บริโภค ได้รับประสบการณ์การบริโภคสินค้าเกษตรที่สด ใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน เกษตรกรต่อไป โดยบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดโปรโมชั่นและบริการพิเศษ ดังนี้ 1. ส่วนลดค่าขนส่ง 10% 2. จัดส่งสินค้าถึงมือปลายทางอย่างรวดเร็ว 3. หากพัสดุเสียหาย จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี 4. มีบริการแนะนำการแพคสินค้าให้เกษตรกร และ5. มีบริการเข้าไปรับสินค้าถึงสวน
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้เพียงพอในการดำรงชีวิต และสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นธุรกิจการเกษตรได้อย่างยั่งยืน ซึ่งการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ก็เป็นประเด็นสำคัญที่กรมส่งเสริมการเกษตรให้ความสำคัญ จึงบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อสนับสนุนแนวโน้มการตลาดแบบออนไลน์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และสร้างความมั่นคงทางด้านรายได้แก่เกษตรกร จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง