รองปลัดกระทรวงแรงงานพร้อมอธิบดีกรมการจัดหางานและคณะ เยี่ยมคนงานไทยเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์ พร้อมหารือทางการฟินแลนด์ นายจ้างและบริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่า ย้ำดูแลรักษาผลประโยชน์คนงานไทยมิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง และหาแนวทางลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานให้กับคนงานไทย
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 นางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยถึงผลการตรวจเยี่ยมคนงานไทยไปเก็บผลไม้ป่า (ลูกเบอรี่) ที่ประเทศฟินแลนด์ นำโดย พันตำรวจตรีหญิง รมยง สุรกิจบรรหาร รองปลัดกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 18-20 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า จากการลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจคนงานไทยที่ไปเก็บผลไม้ป่าให้บริษัท Polarica oy กว่า 200 คนในแคมป์ที่พักเมือง Rouvesi (รูโอเวอซี่) ประเทศฟินแลนด์ พบว่าคนงานพอใจกับการทำงานเพราะที่นี่อากาศดี ไม่ร้อน ออกไปเก็บผลไม้ช่วง 04.00-19.00 น. ซึ่งคนงานไทยเก่งมากในการเก็บลูกเบอรี่ โดยต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเก็บ คนงานจะเดินเข้าไปในป่า มีอุปกรณ์ประจำตัวคือ ‘คาด’ ที่ผลิตจากเมืองไทยเป็นเครื่องมือในการเก็บลูกเบอรี่ ถังสำหรับใส่ลูกเบอรี่ นกหวีด มี GPS เพื่อหาที่ตั้งของลูกเบอรี่ และรถสำหรับเก็บลูกเบอรี่ ทั้งนี้ หากพบแหล่งที่มีลูกเบอรี่เป็นจำนวนมากก็จะมีความสุขและไม่ลำบาก แต่ถ้าไม่พบลูกเบอรี่ก็จะต้องเข้าไปในป่าลึก สำหรับรายได้นั้น ปรากฎว่า หากมีประสบการณ์เคยมาเก็บแล้วจะมีรายได้สูง เพราะเก็บได้จำนวนมาก โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา คนงานมีรายได้สูงสุด 450,000 บาท รายได้ต่ำสุดประมาณ 80,000-90,000 บาท โดยเฉลี่ยประมาณ 120,000 – 130,000 บาท ในการทำงานประมาณ 80 วัน หรือประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน ขณะที่คนงานที่เก็บได้มากจะมีรายได้ประมาณ 100,000 บาทต่อเดือน
ในโอกาสนี้ ได้หารือร่วมกับนายนพพร อัจฉริยวนิช เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ในการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสาธารณรัฐฟินแลนด์ ซึ่งนำทีมโดย Ms.Jenni Karjalainen และ Mr.Olli Sorainen ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงกิจการค้าและการจ้างงาน Mr.Anntti Nelmala อธิบดีกรมการจ้างงานฟินแลนด์ และผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศฟินแลนต์ โดยคณะผู้แทนฝ่ายไทยได้ยกประเด็นหารือกับผู้แทนฝ่ายสาธารณรัฐฟินแลนด์ใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1. ต้องการให้คนงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์มีสถานะเป็น seasonal worker และมีสัญญาจ้างงานที่ชัดเจน โดยทางการฟินแลนด์ตอบรับว่าจะหาวิธีแก้ไขปัญหาและทำวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน 2. การกำหนดให้คนงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าได้รับค่าจ้างเหมาตามจำนวนที่เก็บได้ มีการประกันรายได้ขั้นต่ำเพิ่มไม่ต่ำกว่า 40 ยูโรต่อวัน ส่วนที่เก็บได้เกินถือเป็นรายได้เพิ่ม โดยฝ่ายไทยพร้อมจะให้คำแนะนำในการกำหนดและวิธีการคำนวณค่าจ้างรายชิ้น 3. การกำหนดให้นายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการอบรมคนงาน เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้คนงานที่เดินทางไปทำงานในตำแหน่งพนักงานสนับสนุน (Staff) โดยฝ่ายฟินแลนด์รับไปหาเครื่องมือ กฎหมาย และระเบียบในการแก้ไขกฎหมายต่อไป 4. การเสนอขอให้ทางการฟินแลนด์ดูแล เอาใจใส่ และคุ้มครองคนงานไทย เพื่อทางการไทยจะได้พิจารณากำหนดโควตาคนงานไทยได้อย่างเหมาะสม ซึ่งทางการฟินแลนด์ยินดีจะนำทุกประเด็นไปหารือกับผู้มีส่วนได้เสียในการประชุมที่เมืองโอยูลู ในปลายปีนี้ ต่อไป
อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวฝากเตือนคนหางานที่ประสงค์จะไปเก็บผลไม้ป่าตามฤดูกาลในประเทศฟินแลนด์ว่า ขอให้ไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน โทรศัพท์ 0-2245-6712 หรือสายด่วน 1506 กด 2 หรือทางเว็บไซต์ www.doe.go.th