12 – 13 มิ.ย. นี้ อย. จับมือภาคีเครือข่าย ร่วมเดินหน้าแก้ปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพ

12 – 13 มิถุนายน 2567 อย. สสส. มสพ. และ MORU พร้อมภาคีเครือข่ายกว่า 30 หน่วยงาน จัดประชุมสัมมนาระดับชาติ เรื่อง การดื้อยาต้านจุลชีพ ภายใต้ธีม “Save Lives Fight Resistance” ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการที่เป็นปัจจุบัน ความก้าวหน้าและความท้าทายในการดำเนินงาน รวมทั้งนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการดื้อยาต้านจุลชีพในระดับประเทศ และระดับโลก

 

นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา (มสพ.) และหน่วยวิจัยโรคเขตร้อนมหิดล-อ๊อกซ์ฟอร์ด คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล (MORU) พร้อมภาคีเครือข่าย 30 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา สมาคมและองค์กรวิชาชีพ ตลอดจนเครือข่ายภาคประชาสังคม จัดประชุมสัมมนาระดับชาติ เรื่อง การดื้อยาต้านจุลชีพ ครั้งที่ 4 (The 4th National Forum on AMR) ในวันที่ 12 – 13 มิถุนายน 2567 ภายใต้ธีม “Save Lives Fight Resistance” ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ โดยประเทศไทยได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 – 2570

ทั้งนี้ จะมีการประชุมระดับสูงเรื่องการดื้อยาต้านจุลชีพระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติในเดือนกันยายน 2567 ที่นครนิวยอร์ค ดังนั้น การประชุมสัมมนาระดับชาติที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการแก้ปัญหา AMR ในระดับประเทศ รวมทั้งสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับประชาคมโลกในการแก้ปัญหาดังกล่าว

เลขาธิการฯ อย. กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในครั้งนี้จะมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ ความมุ่งมั่นและความเป็นผู้นำทางการเมือง : กุญแจสู่ความสำเร็จในการแก้ปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพ โดยได้รับเกียรติจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การประชุมสัมมนารวม (plenary session) ซึ่งจะมีวิทยากรจากทุกภาคส่วนหมุนเวียนกันมาอัพเดทสถานการณ์และข้อมูลวิชาการที่น่าสนใจในการจัดการปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและระดับโลก อีกทั้งยังมีการแสดงนิทรรศการภายในบริเวณงาน (on-site exhibition) รวมถึงการเผยแพร่บทคัดย่อของผลงานวิชาการ (e-abstract)