ปลัดสธ. เผย ทีมแพทย์ไทยชุดที่ 2 ถึงซาอุดิอาระเบียแล้ว พร้อมดูแลชาวไทยมุสลิมที่ไปประกอบพิธีฮัจย์

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่สำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย
ชุดที่ 2 จำนวน 14 คน เดินทางถึงราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียแล้ว พร้อมสมทบปฏิบัติงานร่วมกับชุดแรก แบ่งเป็น 2 ทีม ประจำนครเมกกะห์ และนครมาดีนะห์ ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยแล้ว 360 ราย ส่งรักษาในโรงพยาบาลท้องถิ่น 3 ราย ขณะนี้ทั้ง 3 รายอาการดีขึ้น ได้ออกเยี่ยมและติดตามอาการกลุ่มที่ต้องดูแลใกล้ชิด

วันนี้ (28 พฤษภาคม 2567) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมบุคลากรทางการแพทย์ เดินทางไปดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่ไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2567 (ฮ.ศ.1445) จำนวน 3 ทีม โดยทีมแพทย์ชุดแรก จำนวน 15 คน ออกเดินทางไปแล้วเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา และได้รับรายงานจาก นายแพทย์ซุลกิฟลี ยูโซะ หัวหน้าสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ว่า ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่สำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์ แห่งประเทศไทย ชุดที่ 2 จำนวน 14 คน ได้เดินทางถึงราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 รวมทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ฯ ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 ที่พำนัก ณ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ขณะนี้ 29 คน ส่วนทีมชุดที่ 3 จำนวน 13 คน จะเดินทางมาสมทบในวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 นี้ ซึ่งทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่สำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยทั้งหมด มีความพร้อมทั้งกายและใจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลสุขภาพผู้แสวงบุญชาว ไทยอย่างดีที่สุด เพื่อให้ประกอบพิธีฮัจย์ได้อย่างสมบูรณ์

นายแพทย์โอภาสกล่าวต่อว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ได้แบ่งเป็น 2 ทีม คือ ทีมที่ 1 ประจำที่สำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย นครเมกกะห์ ซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านอาคาร สถานที่ เวชภัณฑ์ยาและที่ไม่ใช่ยา โดยเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2567) มีผู้เข้ารับบริการผู้ป่วยนอก 350 ราย ผู้ป่วยใน 8 ราย ผู้ป่วยส่งต่อ 2 ราย และผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน 1 ราย ได้แก่ รายที่ 1 มีประวัติเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล Makkah Medical center รายที่ 2 มาด้วยอาการถ่ายเหลวมากกว่า 10 ครั้ง/วัน และมีอาการหอบเหนื่อยเฉียบพลัน ขณะรักษาตัวในแผนกผู้ป่วยใน จึงส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล King Faisal และรายที่ 3 เป็นผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน มีอาการหนาวสั่นและเจ็บหน้าอกเฉียบพลัน ได้เข้ารับบริการตามระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศซาอุดีอาระเบีย ณ โรงพยาบาล Saudi German ซึ่งทีมหน่วยแพทย์ของไทยได้ติดตามเยี่ยมต่อเนื่อง พบว่าทั้ง 3 รายมีอาการดีขึ้นแล้ว

สำหรับทีมที่ 2 ประจำที่ศูนย์ประสานงานสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ประจำนครมาดีนะห์ บริการให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพและติดตามเยี่ยมเยียน ไม่มีบริการตรวจรักษาหรือจ่ายยา โดยมีเจ้าหน้าที่ หมุนเวียนมาให้บริการ ได้ออกตรวจคัดกรองสุขภาพทั่วไป ดูแลเบื้องต้นในกลุ่มที่ต้องดูแลใกล้ชิดและผู้ที่มีอาการฉุกเฉิน ออกเยี่ยมผู้ประกอบพิธีฮัจย์ที่มีสุขภาพที่ต้องดูแลใกล้ชิด และผู้ประกอบพิธีฮัจย์ที่โทรศัพท์ประสานในกรณีที่มีอาการเจ็บป่วย ซึ่งจากการเยี่ยมติดตาม พบว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ต้องดูแลใกล้ชิดมีอาการคงที่ ได้แนะนำการปฏิบัติตัวและการใช้ยาประจำตัว ส่วนผู้ประกอบพิธีฮัจย์ที่มีอาการเจ็บป่วยรุนแรง ได้ประสานส่งต่อไปยังโรงพยาบาลท้องถิ่น นครมาดีนะห์ เพื่อรับการรักษาต่อเนื่อง และเยี่ยมติดตามประเมินอาการร่วมกับแพทย์ของโรงพยาบาลท้องถิ่นทุก 1-2 วัน

ทั้งนี้ สำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย นครเมกกะห์ ได้วางแผนประสานผู้ประกอบการ บริษัท/อสม.ฮัจย์ จัดทีมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปยังโรงแรมที่พักต่างๆ เพื่อตรวจสุขภาพและให้ความรู้ในการปฏิบัติตัวด้วย โดยขณะนี้มีคนไทยเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่พำนัก ณ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย รวม 5,086 คน ยังคงเหลืออีก 2,652 คน ซึ่งจะเดินทางโดยสายการบินซาอุเดียแอร์ไลน์ผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 6 เที่ยวบิน ในวันที่ 5 – 11 มิถุนายน 2567 และสายการบินไทย ผ่านท่าอากาศหาดใหญ่ จำนวน 2 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 8 – 9 มิถุนายน 2567 สู่ท่าอากาศยานเมืองเจดดาห์แล้วเดินทางเข้าเมืองเมกกะห์ทันที