16 พ.ค. 2567/กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดพิธีรับมอบหมวกนิรภัยขนาดเล็ก และเครื่องยนต์ จาก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด โดยมีพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน ณ ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในนามของกระทรวงศึกษาธิการ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในการรับมอบหมวกนิรภัยขนาดเล็ก จำนวน 7,700 ใบ และเครื่องยนต์ ขนาด 300 ซีซี จำนวน 100 เครื่อง จากบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ให้กับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา การสนับสนุนจากบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของเยาวชนในประเทศไทย โดยไม่เพียงแต่เป็นบริษัทผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเป็นผู้นำในการส่งเสริมและสนับสนุนความปลอดภัยในการเดินทางและการพัฒนาทักษะวิชาชีพให้แก่เยาวชนไทยด้วย
โดยหมวกนิรภัยที่ได้รับจะถูกนำไปใช้เพื่อเสริมสร้างมาตรการความปลอดภัยให้กับนักเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อลดอัตราการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ในขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 300 ซีซี จะถูกใช้ในการฝึกปฏิบัติในการเรียนการสอน ให้นักเรียนนักศึกษาได้รับความรู้ และทักษะที่จำเป็น เตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพ เพื่อการผลิตและพัฒนากำลังคนสายอาชีพ ให้เป็นกำลังคนที่มีคุณภาพและสมรรถนะสูง ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ
ในนามกระทรวงศึกษาธิการ ผมขอขอบคุณบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ที่มอบโอกาสและสนับสนุนทรัพยากรที่มีค่านี้ให้กับนักเรียน นักศึกษา ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เป็นกัลยาณมิตรที่ร่วมกันยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างเต็มกำลัง ภายใต้แนวทางการทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา “เรียนดี มีความสุข” พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพการศึกษา พัฒนาคุณภาพชีวิต และความปลอดภัยของเยาวชนไทย รวมถึงพัฒนาความรู้และทักษะอย่างต่อเนื่อง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานในด้านต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ และร่วมกันสร้างสังคมที่ดีกว่าเดิมต่อไป
นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ครบรอบ 60 ปี ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาความรู้ ทักษะทางเทคนิคเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ให้แก่นักเรียนนักศึกษา จึงมีความประสงค์สนับสนุนเครื่องยนต์ ขนาด 300 ซีซี จำนวน 100 เครื่อง เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านระบบเครื่องยนต์และเทคโนโลยีของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ให้แก่สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จำนวน 25 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิค (วท.) หาดใหญ่ วท.ทุ่งสง วท.นครศรีธรรมราช วท.สุราษฎร์ธานี วท.พัทลุง วท.อุบลราชธานี วท.สุรินทร์ วท.บุรีรัมย์ วท.ร้อยเอ็ด วท.กันทรลักษ์ วท.พิษณุโลก วท.เชียงราย วท.เพชรบูรณ์ วท.ลำปาง วท.นครสวรรค วท.ลพบุรี วท.สุพรรณบุรี วท.พระนครศรีอยุธยา วท.ราชบุรี วท.ชัยนาท วท.ธัญบุรี วท.สระแก้ว วท. สมุทรปราการ วท.สัตหีบ และ วท.ระยอง
ด้านคุณพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก ผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ ยานยนต์ทางน้ำ รถกอล์ฟ และในปี 2567 นี้ เป็นวาระโอกาสอันดี ที่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ฉลองครบรอบ 60 ปี ของบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จึงได้จัดทำโครงการผลิตหมวกนิรภัยขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อสังคม ให้กับโรงเรียนระดับประถมศึกษาที่เป็นนักเรียนเยาวชน ใน 77 จังหวัด จำนวน 7,700 ใบ รวมมูลค่า 2,695,000 บาท โดยจะส่งมอบผ่าน ผู้จำหน่ายยามาฮ่า 77 จังหวัด เพื่อร่วมทำกิจกรรมความปลอดภัย รณรงค์สวมใส่หมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ และสร้างความตระหนักถึงการขับขี่ปลอดภัยบนท้องถนน ลดการสูญเสียเมื่อเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้ง บริษัทฯ ยังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาความรู้ ทักษะ ความสามารถ ในด้านเทคนิครถจักรยานยนต์ ของนักเรียน นักศึกษา อาชีวศึกษา จึงสนับสนุนเครื่องยนต์เพื่อการศึกษา ขนาด 300 ซีซี. ที่มากด้วยเทคโนโลยีที่ บริษัทฯ ได้คิดค้น พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านระบบเครื่องยนต์ เทคนิคการบำรุงรักษา และเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สู่วิทยาลัยอาชีวศึกษา 25 วิทยาลัย ทั่วประเทศ จำนวน 100 เครื่อง รวมมูลค่า 2,400,000 บาท หวังว่าโครงการต่างๆ ที่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ สนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นประโยชน์ต่อภาคการศึกษา และเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของประเทศ ตลอดจนสังคมโดยรวมต่อไป