กรมโยธาธิการและผังเมือง น้อมรำลึก 161 ปี “นายช่างใหญ่แห่งกรุงสยาม” สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

28 เม.ย. 67 กรุงเทพมหานคร/… นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นประธานพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ ครบรอบ 161 ปี โดยมี หม่อมหลวงตรีจักร จิตรพงศ์ ผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง และบุคลากรกรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมพิธี ณ กรมโยธาธิการและผังเมือง ถนนพระรามที่ 6

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองมีรากฐานและวิวัฒนาการนับจากห้วงเวลาที่มีประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา “กรมโยธาธิการ” ใน พ.ศ. 2432 เมื่อครั้งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งต่อมา ทรงพระกรุณาให้ยกฐานะเป็น “กระทรวงโยธาธิการ” ใน พ.ศ. 2435 โดยมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ดำรงตำแหน่ง “เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ”และทรงเป็น “อธิบดีกรมโยธาธิการ” พระองค์แรก ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมดูแลงานโยธาธิการและการก่อสร้างทั้งหมดของประเทศ ทำให้ต้องทรงศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมทั้งงานช่างแผนเก่าและใหม่ เป็นเหตุให้ทรงได้รับการล้อเรียกจากเจ้านายพระบรมวงศานุวงศ์ว่า“นายช่างใหญ่แห่งกรุงสยาม”และพระองค์ทรงได้รับคำสรรเสริญพระเกียรติคุณยกย่องเทิดทูลว่าทรงเป็น “สมเด็จครู” ของงานช่างทั้งปวง

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ในฐานะเจ้ากรมโยธาธิการและเสนาบดี กระทรวงโยธาธิการพระองค์แรก ไม่เพียงแค่มีความเข้าพระทัยในแนวพระราชดำริเสมือนนั่งอยู่ในดวงใจในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเฉพาะด้านศิลปะเท่านั้น แต่ยังทรงมีความเข้าพระทัยในพระราชประสงค์ทั้งด้านการทหาร การบริหารจัดการงานโยธาและมุ่งมั่นดำเนินงานสนองเบื้องพระยุคลบาท แม้จะประสบปัญหาและอุปสรรคนานัปการก็ตามโดยได้ทรงบุกเบิกงานและกำกับดูแลรับผิดชอบ การวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ สนองพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีผลงานการบริหารจัดการ และการวางบรรทัดฐานในหลายด้าน รวมทั้งผลงานพัฒนาการคมนาคมและการสื่อสารพระองค์ทรงพระวิริยอุตสาหะประกอบพระกรณียกิจในฐานะ “นายช่างใหญ่แห่งกรุงสยาม” ตามที่ “เจ้านายพี่น้องทรงล้อเรียกกัน”กระทั่งปรากฏผลดีต่อบ้านเมืองหลายประการและปรากฏวัตถุสถานอันเป็นสาธารณูปการ สืบมาจนกระทั่งปัจจุบัน นอกจากนี้ หน้าที่“นายช่างใหญ่แห่งกรุงสยาม”โดยเฉพาะเมื่อทรงรับตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการนั้นนับว่าเป็นพระกรณียกิจอันหนักยิ่งเนื่องด้วยภารกิจที่เกี่ยวกับงานโยธาในห้วงเวลานั้น คือ “เป็นพนักงานที่จะตรวจการก่อสร้าง ทำถนน ขุดคลอง และการช่างทั่วไปทั้งการไปรษณีย์ และโทรเลขหรือรถไฟ ซึ่งจะมีสืบไปภายหน้า”นอกจากนี้ยังมีหน้าที่คิดออกแบบแปลนและดำเนินการก่อสร้างของกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ ตลอดจนตรวจคุม รายการก่อสร้าง และควบคุมตรวจตัดราคาที่จะตั้งงบประมาณเบิกเงินจากกระทรวงพระคลังอีกด้วย

เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ผู้เป็นต้นแบบในการทำความดีงามเพื่อสังคมส่วนรวม กรมโยธาธิการและผังเมืองได้จัดสร้างพระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ประดิษฐาน ณ บริเวณด้านหน้ากรมโยธาธิการและผังเมือง ถนนพระรามที่ 6 โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระอนุสาวรีย์ฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน 2550

กรมโยธาธิการและผังเมืองได้จัดงานวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง และในวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2567 ครบรอบ 161 ปี ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ของกรมโยธาธิการและผังเมืองขอตั้งจิตมั่นดำเนินตามภารกิจด้านช่าง และศิลปะวิทยาการ ตามแบบอย่าง “สมเด็จครู”ที่ได้ทรงริเริ่มไว้และขอสืบสานพระปณิธานเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาเมือง ให้มีความงดงามและเจริญรุ่งเรืองสืบไป