รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย จังหวัดบึงกาฬ กำหนดจัดโครงการพาหมอไปหาประชาชนฯ ต่อเนื่องตลอดปี 2567 ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นมา มีประชาชนได้รับบริการไปแล้ว 23,966 คน โดยที่อำเภอเซกา จัดบริการรวม 14 คลินิก หนึ่งในนั้นเป็นคลินิกตรวจโรคทั่วไป ด้วยนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ช่วยเสริมความเข้าใจการยกระดับปรับระบบ 30 บาทเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน โดยมีผู้เข้ารับบริการรวม 3,000 คน
วันที่ 7 เมษายน 2567 ที่ โรงเรียนเซกา อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิด “โครงการพาหมอไปหาประชาชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ของจังหวัดบึงกาฬ โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหารส่วนกลางและผู้บริหารในพื้นที่ ร่วมงาน
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า โครงการพาหมอไปหาประชาชนฯ ของจังหวัดบึงกาฬ มีการวางแผนออกให้บริการหน่วยแพทย์เฉพาะทางและจิตอาสาในพื้นที่ห่างไกลทั้ง 8 อำเภอ ในวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่อเนื่องตลอดปี 2567 โดยโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัด ทำให้เพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการของประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และคัดกรองความเสี่ยงในโรคที่เป็นปัญหาสำคัญได้อย่างครอบคลุม โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 จนถึงปัจจุบัน มีประชาชนได้รับบริการรวมทั้งสิ้น 23,966 คน ซึ่งผลคัดกรองที่สำคัญ อาทิ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มีประชาชนเข้ารับการคัดกรอง 1,006 ราย พบ ผิดปกติส่งต่อเพื่อวินิจฉัยยืนยัน 432 ราย, มะเร็งเต้านม คัดกรอง 1,756 รายพบ ผิดปกติส่งต่อเพื่อวินิจฉัยยืนยัน 72 ราย, สายตาเด็กและผู้สูงอายุ เข้ารับการคัดกรอง 1,474 ราย ผิดปกติส่งต่อเพื่อวินิจฉัยยืนยัน 814 ราย เป็นต้น สำหรับโครงการในวันนี้ มีการจัดบริการ 7 คลินิกหลัก คือ 1) คลินิกคัดกรองมะเร็งตับ/มะเร็งท่อน้ำดี 2) คลินิกคัดกรองมะเร็งปากมดลูก 3) คลินิกคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง 4) คลินิกคัดกรองมะเร็งเต้านม 5) คลินิกตาในเด็กและผู้สูงอายุ 6) คลินิกทันตกรรม 7) คลินิกกระดูกและข้อ
นอกจากนี้ ยังมีบริการเสริมอีก 7 คลินิก ได้แก่ 8) คลินิกสุขภาพจิต 9) คลินิกแพทย์แผนไทย 10) คลินิกคัดกรองวัณโรค 11) คลินิกกายภาพบำบัด 12) คลินิกบริการเภสัชกรรม 13) ตรวจทางห้องปฏิบัติการ และ 14) คลินิกตรวจโรคทั่วไปด้วยนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่มารับบริการได้เข้าใจการยกระดับ ปรับระบบ 30 บาทรักษาทุกที่ฯ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และจิตอาสา โดยมีประชาชนเข้ารับบริการในคลินิกต่างๆ รวม 3,000 คน