อย. แนะซื้ออาหารนำเข้าต้องมีฉลากภาษาไทย และเลข อย.

อย. เตือนผู้ประกอบการนำเข้าอาหารให้ขออนุญาตก่อนจำหน่าย และแสดงฉลากอย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท พร้อมแนะผู้บริโภคปกป้องตนเองเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารนำเข้าที่มีฉลากภาษาไทย และเลข อย. เพื่อความปลอดภัย

เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจพบปัญหาการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่นำเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตจาก อย. ไม่มีฉลากภาษาไทย และแสดงฉลากไม่ถูกต้อง จึงขอแจ้งให้ผู้ประกอบการอาหารนำเข้าปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยอาหารแปรรูปพร้อมบริโภคทุกชนิดที่บรรจุ หรือถูกห่อหุ้มในภาชนะบรรจุและอยู่ในสภาพพร้อมบริโภคที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ต้องมีฉลากภาษาไทย ที่แสดงชื่ออาหาร เลข อย. ส่วนประกอบหรือส่วนผสม ชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้า ชื่อและประเทศผู้ผลิต วันเดือนปีที่หมดอายุ หรือควรบริโภคก่อน น้ำหนักสุทธิหรือปริมาตรสุทธิ และข้อมูลการใช้วัตถุเจือปนอาหาร สารก่อภูมิแพ้ แต่งกลิ่น เป็นต้น ซึ่งผู้จำหน่าย ร้านค้า และตลาดออนไลน์ ควรปฏิบัติตามกฎหมาย โดยคัดเลือกผลิตภัณฑ์นำเข้าที่มีฉลากภาษาไทยและมีการแสดงฉลากอาหารถูกต้องมาจำหน่าย ทั้งนี้ อย. ได้จัดทำหลักเกณฑ์การแสดงฉลากอาหารและตัวอย่างฉลากอาหารเพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับผู้ประกอบการในการคัดกรองผลิตภัณฑ์ที่นำมาจำหน่าย โดยสามารถศึกษาได้ทางคิวอาร์โค้ด ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท

รองเลขาธิการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของผู้บริโภคควรป้องกันตนเองจากผลิตภัณฑ์อาหารนำเข้าผิดกฎหมาย ไม่มีฉลากภาษาไทย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากภาษาไทยและมีการแสดงฉลากถูกต้อง ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลการได้รับอนุญาตของผลิตภัณฑ์ ได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือผ่าน Line@FDAThai, Facebook : FDAThai และตรวจสอบการได้รับอนุญาตโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหาร ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ อย. หมวดบริการประชาชน หัวข้อสืบค้นใบอนุญาตโฆษณา หากมีข้อสงสัยเรื่องความปลอดภัย สามารถสอบถาม หรือแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Line@FDAThai, Facebook : FDAThai หรือ E-mail : 1556@fda.moph.go.th ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ