นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากหน่วยรับงบประมาณมีระยะเวลาดำเนินการ และเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประมาณ 5 เดือน ดังนั้น เพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายได้ภายในระยะเวลาข้างต้น คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อให้การดำเนินงานมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยลดระยะเวลาการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามนัยหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.4/ว 41 ลงวันที่ 24 มกราคม 2567 รวมทั้งกรมบัญชีกลางยังได้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเบิกหักผลักส่ง เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ชดใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน เพื่อให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการ ได้อย่างต่อเนื่องและมีความถูกต้อง เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีผลบังคับใช้ ตามนัยหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค 0414.3/ว 173 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2567
นอกจากนี้ คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ได้กำหนดมาตรการเร่งรัด การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ดังนี้
1. ให้เร่งเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีของปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ให้สามารถเบิกจ่ายได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยเฉพาะในส่วนของรายจ่ายที่ก่อหนี้แล้ว สำหรับรายการที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ให้เร่งรัดการก่อหนี้และเบิกจ่ายโดยเร็ว
2. กำหนดระยะเวลาส่งมอบงานให้รวดเร็วขึ้น และเบิกจ่ายตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
3. กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวม ร้อยละ 93 การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำ ร้อยละ 98 การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุน ร้อยละ 75 และเป้าหมายการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวม รายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน ร้อยละ 100
4. ให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการดังนี้
4.1 เมื่อได้รับอนุมัติเงินจัดสรรแล้ว กรณีเป็นรายการที่จะต้องดำเนินการหรือเบิกจ่ายโดยสำนักงาน ในส่วนภูมิภาค เร่งดำเนินการส่งเงินจัดสรรต่อไปยังสำนักงานในส่วนภูมิภาคภายใน 5 วันนับแต่วันที่ได้รับอนุมัติเงินจัดสรร เพื่อให้สำนักงานในส่วนภูมิภาคดำเนินการใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันต่อไป
4.2 รายการลงทุนปีเดียวให้ก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2567 สำหรับรายการผูกพันใหม่ให้ก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2567
4.3 ให้หัวหน้าหน่วยงานเจ้าของงบประมาณกำกับดูแล บริหารจัดการเร่งรัดการดำเนินการ เพื่อให้สามารถก่อหนี้และเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
“นอกจากการกำหนดแนวทางปฏิบัติที่จะสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐให้สามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ดังกล่าวแล้ว กรมบัญชีกลางได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจในการติดตาม เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ จำนวน 175 ทีม โดยแบ่งเป็น ส่วนกลาง 90 ทีม ซึ่งมีข้าราชการระดับชำนาญการพิเศษ เป็นหัวหน้าทีม รับผิดชอบหน่วยงานที่ได้รับรายจ่ายลงทุนในส่วนกลาง คนละ 2-3 หน่วยงาน และเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และส่วนภูมิภาค 85 ทีม (คลังเขต 9 ทีม คลังจังหวัด 76 ทีม) ทำหน้าที่ติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดที่รับผิดชอบ และเป็นเลขานุการคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำจังหวัด รวมทั้งมีคณะทำงานกำกับดูแล การติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง และการเบิกจ่ายทำหน้าที่ติดตามการดำเนินงาน ให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ให้แก่คณะทำงานเฉพาะกิจฯ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว