กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. บูรณาการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) สงเสริมสนับสนุนการบริหารทรัพยากรน้ำ ให้เกษตรกรมีน้ำเพียงพอสำหรับทำการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่และวนเกษตร มีการรวมกลุ่มวางแผนการผลิตได้ตลอดปี รวมทั้งพัฒนาและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร สู่การการรับรองมาตรฐานสินค้าระดับสากล เพิ่มศักยภาพการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศอย่างยั่งยืน
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. ดร.รอยบุญ รัศมีเทศ ผู้อำนวยการ สสน. ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ “การพัฒนาผลผลิตการเกษตรและผลิตภาพน้ำของชุมชน ยกระดับสู่การรับรองมาตรฐาน” โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 4 ปี โอกาสนี้ ดร.อาภากร สุปัญญา รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์และจัดการนวัตกรรม วว. นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการ สทนช. และนายณรงศักดิ์ พิมพ์พรรณชาติ นักบริหารนโยบายวิจัยและพัฒนา สสน. ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมีผู้บริหาร บุคลากร ทั้งสามหน่วยงานร่วมแสดงความยินดีและร่วมเป็นเกียรติด้วย ในวันที่ 29 มีนาคม 2567 ณ ห้องบัญชาการ ชั้น 2 สสน. เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยบทบาทภารกิจของแต่ละหน่วยงานภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว มีดังนี้
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สนับสนุน ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชนและเกษตรกร ด้านการพัฒนาและยกระดับผลผลิตการเกษตรให้เป็นผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่พร้อมรับรองมาตรฐานที่ตลาดกำหนด สนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาผลผลิตการเกษตร เพื่อเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้า สนับสนุนบุคลากรเพื่อการพัฒนาโครงการร่วมกันกับ สทนช. และ สสน.ในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ข้อมูลด้านวิจัยพัฒนาผลผลิตและการรับรองมาตรฐานสินค้า
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชนและเกษตรกร เพื่อสร้างความพร้อมในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้มีความเพียงพอต่อการประกอบอาชีพในพื้นที่ สนับสนุนบุคลากรเพื่อการพัฒนาโครงการร่วมกันกับ วว. และ สสน. ในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ข้อมูลด้านวิชาการและการบริหารจัดการน้ำทุกระดับ
สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ คัดเลือกผู้แทนชุมชนและเกษตรกรในพื้นที่ที่มีความพร้อมในด้านการพัฒนาศักยภาพในเรื่องการวิจัยและพัฒนาผลผลิตการเกษตร สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชนและเกษตรกรด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สนับสนุนบุคลาก เพื่อการพัฒนาโครงการร่วมกันกับ สทนช. และ วว. ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ทั้ง 3 หน่วยงาน จะได้ผนึกกำลังบูรณาการความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชน เกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจ เกิดการรับรู้และเรียนรู้องค์ความรู้ การวิจัย พัฒนาด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ นำไปใช้ประโยชน์ในบริหารจัดการน้ำ การเสริมสร้างอาชีพ ให้มีความเข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้ในปัจจุบัน โดยจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชน เกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจ เกิดการเรียนรู้ ในการยกระดับผลผลิตการเกษตร พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่พร้อมรับรองมาตรฐานที่ตลาดกำหนด ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนสืบไป
“…ทรัพยากรน้ำ มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของ มนุษย์ สิ่งมีชีวิต ปัจจุบันมีการใช้น้ำในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและครัวเรือน สำหรับอุปโภค บริโภค ดังนั้นการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจึงเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่ต้องตระหนักถึงการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน หรือกระบวนการจัดการในด้านอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการประยุกต์ใช้ วทน. ในการพัฒนาชุมชนและเกษตรกรให้มีศักยภาพในการบริหารทรัพยากรน้ำ การพัฒนาและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรให้มีมาตรฐานระดับสากล วว. มุ่งวิจัยพัฒนาและบูรณาการ วทน. เพื่อสร้างคุณค่า มูลค่าเพิ่ม ให้กับเศรษฐกิจประเทศ ตอบสนองการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการนำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญและศักยภาพของบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา การบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บูรณาการดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร คือ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ในการส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำและพัฒนาศักยภาพของชุมชนและเกษตรกร เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรของไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้น…” ผู้ว่าการ วว. กล่าวสรุป
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า รู้สึกยินดีมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการลงนามบันทึกความเข้าใจ “การพัฒนาผลผลิตการเกษตรและผลิตภาพน้ำของชุมชน ยกระดับสู่การรับรองมาตรฐาน” กับ วว. และ สสน. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัย ที่เกี่ยวของกับการบริหารทรัพยากรน้ำ การพัฒนาและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และการรับรองมาตรฐานสินค้าผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ที่ต้องการเพิ่มผลิตภาพของน้ำทั้งระบบ โดยการจัดหาน้ำและใช้น้ำอย่างประหยัด และสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้น้ำให้ทัดเทียมระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มผลิตภาพมูลค่าภาคเกษตร ที่ปัจจุบันภาคเกษตรยังมีความต้องการใช้น้ำในปริมาณมาก แต่สร้างมูลค่าได้น้อย โดย สทนช. พร้อมที่จะสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชนและเกษตรกร ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้มีความเพียงพอต่อการประกอบอาชีพในพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนบุคลากร เพื่อการพัฒนาโครงการร่วมกัน ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลด้านวิชาการ และการบริหารจัดการน้ำทุกระดับ และขอขอบคุณทั้งสองหน่วยงานเป็นอย่างยิ่ง ที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อน การสร้างความมั่นคงของทรัพยากรน้ำของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป
ดร.รอยบุญ รัศมีเทศ ผู้อำนวยการ สสน. กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่ สสน. ได้ร่วมกับ สทนช. และ วว. ขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการน้ำ และพัฒนาผลผลิตการเกษตรของชุมชน ให้ไปสู่การรับรองมาตรฐาน รวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ สอดคล้องกับภารกิจ สสน. ในการถ่ายทอดและส่งเสริมให้ชุมชน สามารถบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ด้วยตนเองอย่างเป็นระบบ ปัจจุบันชุมชนสามารถขยายเครือข่ายไปกว่า 1,800 หมู่บ้าน มีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน 28 แห่งทั่วประเทศ ที่มีความมั่นคงน้ำ มั่นคงอาหารและผลผลิต ทำเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่และวนเกษตร รวมกลุ่มวางแผนการเพาะปลูกได้ตลอดปี และพร้อมต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานระดับสากล เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับชุมชนต่อไป