ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) กล่าวว่า วันที่ 29 มีนาคม 2567 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โดยเจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่จากศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลและอากาศยาน สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ออกปฏิบัติงานสำรวจการแพร่กระจายสัตว์ทะเลหายาก บริเวณพื้นที่จังหวัดตรัง ด้วยวิธีการบินสำรวจโดยใช้อากาศยานปีกตรึง 9 ที่นั่ง สำรวจแบบ Line transect และ Hot spot ซึ่งการสำรวจครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่การสำรวจได้มากขึ้น ถึงบริเวณเกาะลิบง เกาะมุก เกาะสุกร แหลมไทร และบริเวณแนวหญ้าทะเลใกล้เคียง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัดตรัง ซึ่งผลการสำรวจในครั้งนี้ พบจำนวนพะยูน ประมาณ 86 – 121 ตัว เป็นพะยูนคู่แม่ลูกอย่างน้อยประมาณ 3 คู่ เต่าตนุจำนวน 107 – 152 ตัว และโลมาจำนวน 13 ตัว (ซึ่งมีโลมาคู่แม่-ลูก จำนวน 4 คู่) แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจในปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา พบพะยูนมีแนวโน้มจำนวนประชากรลดลง และมีกระจายตัวในพื้นที่กว้างมากขึ้น ซึ่งข้อสันนิษฐานการลดลงของพะยูนในพื้นที่เกาะมุก และเกาะลิบง จึงเป็นไปได้ว่ามีการอพยพย้ายถิ่นไปยังแหล่งหญ้าทะเลในพื้นที่ใกล้เคียง จากการสำรวจพะยูนบริเวณเกาะศรีบอยา และบริเวณเกาะสุกร นั้นพบพะยูนมีจำนวนเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ตนได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เร่งดำเนินการส่ง นักวิชาการ นักวิจัย และเจ้าหน้าที่กรม ทช. ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเฝ้าระวัง และเร่งดำเนินการสำรวจประชากรพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก รวมถึงแหล่งหญ้าทะเลตลอดแนวชายฝั่งทะเลอันดามันเพิ่มเติม เพื่อติดตามข้อมูลในภาพรวมของจำนวนประชากรและการแพร่กระจายของพะยูนทั้งหมดอีกครั้ง พร้อมนำเรือตรวจการณ์ และเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการสำรวจ เพื่อรวบรวมเป็นฐานข้อมูล และกำหนดแนวทางการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก ทั้งนี้ ขอความร่วมมือเรือนำเที่ยว และเรือประมงในพื้นที่ ให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับเรือ ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับสัตว์ทะเลดังกล่าวด้วย ทั้งนี้สามารถแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านทะเลชายฝั่ง รวมถึงสัตว์ทะเลหายากได้ตลอดที่ สายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362