วันที่ 29 มีนาคม 2567 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการค่ายพัฒนาพฤตินิสัยผู้ถูกคุมความประพฤติ ระยะเวลา 15 วัน “ค่ายรู้…..รัก (Sense and Love)” ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนนทบุรี มีผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้ถูกคุมความประพฤติในคดียาเสพติด ที่มีผลการจำแนกอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง ครอบครัวไม่สามารถดูแลให้เลิกเกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ และมีอาชีพไม่มั่นคง จำนวนทั้งสิ้น 50 คน โดยมี นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายชุ้น ณัฐเดช กังสกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี และหัวหน้าหน่วยราชการในพื้นที่ เข้าร่วม ณ วัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า สถาบันหรือวัดแห่งนี้เป็นสถานศึกษาในเรื่องการสร้างคนให้เป็นคนดี วันนี้กรมคุมประพฤติอาจจะต้องเปลี่ยนชื่อให้เป็นกรมส่งเสริมความประพฤติดี การเข้าค่ายรู้…รัก ของทุกท่านในวันนี้เหมือนการมารบ แต่ไม่ได้รบกับใครแต่ต้องรบกับใจตัวเอง มนุษย์ทุกคนมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี มีความสำคัญ และอยากให้ทุกท่านภูมิใจว่าในกฎหมายรัฐธรรมนูญทุกฉบับได้ระบุไว้ว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคย่อมได้รับการคุ้มครอง อยากให้น้องๆ ทุกคนในค่ายรู้ว่าการมาเข้าค่ายแห่งนี้ น้องๆ ไม่ได้มาเพราะถูกด้อยค่า แต่มาเพราะความรัก ทุกคนรู้รัก ความรักบางทีไม่ค่อยถูกเอามาใช้ ส่วนใหญ่จะเอาความเกลียดชังความอคติมาใช้ ซึ่งก็จะทำให้สันติสุขไม่บังเกิด เรื่องยาเสพติดทุกคนมีสิทธิก้าวพลาดได้หมด ทุกประเทศในโลกมีปัญหาเหมือนกัน แต่ประเทศอื่นไม่มองผู้ติดยาเสพติดเป็นอาชญากรแต่มองเป็นผู้ก้าวพลาด มองเป็นพลังสำคัญ แต่ประเทศของเรายังจับเข้าคุก จับมาคุมประพฤติ เวลาที่สูญเสียไปอยู่ในเรือนจำ ไปอยู่ในหลังกำแพง ประเทศเรายังพัฒนาสู้เค้าไม่ได้แล้ว แต่ทรัพยากรมนุษย์ของเรายังต้องไปสูญเสียเวลาในเรือนจำอีก ตอนนี้ทุกประเทศเมื่อพูดเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่มีประเทศไหนนำการปราบปรามที่รุนแรงมาใช้ เราต้องการสันติสุข เราต้องการคุณภาพชีวิตที่ดี ยาเสพติดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าอยู่ตรงข้ามกับสันติสุข สังคมใดมีสันติสุข สังคมนั้นจะปฏิเสธยาเสพติด วันนี้ทุกคนในที่นี้ได้ทำการตัดสินใจที่สำคัญยิ่ง คือการตัดสินใจที่จะชนะใจตนเอง ผมจึงถือว่าทุกท่านคือวีรบุรุษ การตัดสินใจของท่านสร้างประโยชน์ไม่ใช่แต่เฉพาะตัวท่านเอง แต่สร้างประโยชน์ต่อครอบครัวของท่าน ต่อสังคม และต่อประเทศชาติ ไม่เช่นนั้นประเทศชาติต้องทุ่มงบประมาณมหาศาลมาแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งยังหาทิศทางที่ชัดเจนให้เหมาะสมกับบริบททุกพื้นที่ไม่ได้
จากนั้น เป็นการแสดงพระธรรมเทศนาโดย พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว โดยพระพะยอม กัลยาโณ ได้กล่าวชื่นชม ผู้เข้ารับการอบรมที่อยู่ครบ ไม่มีใครหนีออกจากค่าย และผู้เข้าอบรมยังชื่นชอบหลักสูตรธรรมะของวัดสวนแก้วอีกด้วย เชื่อว่า 50 คนที่ผ่านค่ายในครั้งนี้ เมื่อออกไปจะกลายเป็นพลังของแผ่นดิน จะไม่หวนกลับไปเป็นภาระของแผ่นดิน ไปก่อร่างสร้างต่อสิ่งที่บรรพบุรุษไทยได้สร้างเอาไว้ ถึงจะเป็นลูกหลานไทย เมื่อออกจากค่ายไปขอให้ทุกคนโชคดี ไม่กลับไปติดยาเสพติดให้กลายเป็นลูกหลานทาส ขอให้เป็นลูกหลานไทยต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเปิดโครงการฯ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กราบนมัสการ แลกเปลี่ยนความเห็นและสนทนาธรรม พร้อมรับพรจาก พระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ก่อนเดินทางกลับ