สำนักงาน ปปง. ส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการกับทรัพย์สิน ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรายคดี นางสาวธารารัตน์ฯ กับพวก ซึ่งได้ดำเนินการกับทรัพย์สินจำนวน 224 รายการ มูลค่าประมาณ 1,017 ล้านบาท

วันที่ 21 มีนาคม 2567 นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. กล่าวว่า ตามที่ คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 ให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน นั้น

วันนี้ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้มอบหมายให้ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่กองคดี 5 สำนักงาน ปปง. เป็นผู้แทนในการส่งมอบสำนวนให้นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ในรายคดี นางสาวธารารัตน์ฯ กับพวก ณ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ รายคดี นางสาวธารารัตน์ฯ กับพวก นั้น เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน การฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดเกี่ยวกับการพนัน  กรณีหลอกลวงผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ โพสต์ข้อความที่มีลักษณะเป็นการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อชักชวนให้บุคคลทั่วไป มาแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทเป็นเงินสกุลหยวน ในอัตราที่ถูกกว่าปกติ แต่เมื่อถึงกำหนดไม่โอนเงินสกุลหยวน หรือไม่สามารถได้ผลตอบแทนตามกำหนด โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก โดยคณะกรรมการธุรกรรม   มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 224 รายการ (เช่น ที่ดิน ห้องชุด รถยนต์และบัญชี เงินฝากธนาคาร) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 1,017 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 19/2567)

ในส่วนของการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในรายคดีดังกล่าวนั้น สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่าง การเปิดรับคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าว สำนักงานจะได้ดำเนินการเพื่อส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย(คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) แทนการสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป