โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ประกาศปรับลดส่งน้ำสำหรับการปลูกพืชฤดูฝน 2562 หลังฝนตกต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างน้อยกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะในช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมามีน้ำไหลเข้าอ่างเพียง 21 ล้าน ลบ.ม.พร้อมขอให้เกษตรกรใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า และแบ่งปัน
นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า เขื่อนลำปาวมีความจุเก็บกัก 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน (14 ส.ค. 62) มีปริมาณน้ำ 408 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 21 ของความจุเก็บกัก น้ำใช้การได้ 308 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 16 ของความจุเก็บกัก มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ 0.01 ล้าน ลบ.ม. ส่งน้ำและระบายน้ำวันละ 2.82 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งถือว่าปัจจุบันปริมาณน้ำในอ่างฯ อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย โดยมีสาเหตุมาจากฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ย จึงทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ น้อยกว่าค่าเฉลี่ยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคม 2562 มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ เพียง 21 ล้าน ลบ.ม. จากค่าเฉลี่ย 277 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 8 ของค่าเฉลี่ยเท่านั้น ซึ่งหากในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ ยังไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่หรือไม่มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ เพิ่มขึ้น อาจจะทำให้ปริมาณน้ำในอ่างฯ มีไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง 2562/2563 จากการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูฝนที่ผ่านมา โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวได้ส่งน้ำเพื่อการเกษตร การอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศ ตามมติการประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) และที่ผ่านมาเขื่อนลำปาวยังได้ระบายน้ำไปเติมน้ำในแม่น้ำชีในช่วงฝนทิ้งช่วง เพื่อช่วยเหลือการประปาที่อยู่ตลอด2ฝั่งลำน้ำชีไปจนถึง จ.อุบลราชธานี ซึ่งการบริหารจัดการน้ำดังกล่าวอยู่ในแผนการส่งน้ำที่ได้วางไว้มาโดยตลอด และจากการประชุมติดตามสถานการณ์เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติร่วมกันว่า หากมีปริมาณน้ำใช้การเหลือน้อยกว่า 350 ล้าน ลบ.ม. หรือถึงช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2562 ปริมาณฝนไม่เป็นไปตามคาดการณ์ จะมีการพิจารณาปรับแผนการส่งน้ำอีกครั้ง ถึงวันนี้ปริมาณน้ำใช้การเหลือเพียง 308 ล้าน ลบ.ม. จึงต้องพิจารณาปรับลดการระบายน้ำลง เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคซึ่งมีความสำคัญเป็นอันดับแรก
ด้านนายพงศ์ศักดิ์ ณ ศร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กล่าวว่า โครงการฯ ได้ออกประกาศปรับลดการส่งน้ำสำหรับการปลูกพืชฤดูฝน 2562 แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน และกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำ จากเดิมที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวได้ทำการส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรในเขตชลประทาน สำหรับการปลูกพืชฤดูฝน 2562 ตามมติการประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) เฉลี่ยวันละประมาณ 4 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นมา ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง 2562/2563 ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก โครงการฯ จึงมีความจำเป็นต้องปรับลดการส่งน้ำเข้าระบบส่งน้ำลดลงตามลำดับ ตามปริมาณน้ำต้นทุนที่มี และหากปริมาณน้ำในอ่างฯ เหลือประมาณ 400 ล้าน ลบ.ม. โครงการฯ จะหยุดส่งน้ำเข้าระบบส่งน้ำ จะมีเพียงการระบายน้ำเพื่อการประปา การอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น อย่างไรก็ตามในช่วงนี้จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนและเกษตรกรร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า และแบ่งปัน ตามปริมาณน้ำที่ส่งเข้าระบบ เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภค-บริโภค ในฤดูแล้งหน้านี้