คปก.อนุมัติตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.ทุกแปลง เห็นชอบอนุกรรมการตรวจสอบผู้ถือครองที่ดินทุกราย ส.ป.ก.ร่อนหนังสือถึงผู้ว่าฯ ทั่วประเทศให้พิจารณาตรวจสอบแนวเขตการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ว่าทับซ้อนหรือไม่ รมว.กษ.ย้ำพบทำผิดกฎหมายสั่งสิ้นสิทธิทันที
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมว.กษ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ครั้งที่ 2/2567 ในวันที่ 8 มีนาคม 2567 ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ โดยที่ประชุมอนุมัติวงเงินเพื่อดำเนินงานโครงการและแผนงานต่าง ๆ กว่า 4,085.578 ล้านบาท
ที่ประชุมมีมติการตรวจสอบเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน โดย
- ให้จัดทำรายชื่อผู้ได้รับการจัดที่ดินทุกราย ติดประกาศในเขตที่ดินที่ตั้งอยู่ในท้องที่นั้น เพื่อให้ราษฎรนำไปใช้ตรวจสอบ
- มีการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน
- แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ พิจารณาความผิดเกี่ยวกับการถือครองที่ดินและใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยมิชอบ โดยมีอำนาจหน้าที่พิจารณาให้ความเห็น และส่งให้ ส.ป.ก. พิจารณาความผิด และมอบหมายให้ดำเนินการต่อไป โดยองค์ประกอบคณะอนุกรรมการ มี ส.ป.ก., ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด, ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย และผู้อำนวยการกลุ่มคดี
ทั้งยังได้อนุมัติโครงการตรวจสอบที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อตรวจสอบที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินทุกราย ทุกแปลง เพื่อให้เกษตรกรผู้ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายของ ส.ป.ก. รวมถึงการป้องกันไม่ให้ใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปที่ดิน โดยเป็นงบดำเนินการ จำนวน 5,838,100 บาท
ทั้งนี้ที่ประชุมรับทราบเรื่อง ส.ป.ก. ดำเนินการส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เรื่องการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวเขตการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร กรณีเป็นที่ดินที่ไม่เคยจัดให้แก่บุคคลใดตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาตรวจสอบแนวเขตการถือครองทำประโยชน์ที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดจะออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยให้พิจารณาว่าทับซ้อนหรือรุกล้ำแนวเขตที่ดินซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ร้อยเอก ธรรมนัส เผยว่า “เรื่องการตรวจสอบการถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน มีอยู่ 3 แบบ คือ แบบแรก การตรวจสอบสิทธิและการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งใช้ความร่วมมือระหว่าง ส.ป.ก.จังหวัด คนในท้องถิ่น ผู้ปกครองท้องที่ ในรูปแบบคณะอนุกรรมการตรวจสอบที่ดินร่วมพิจารณา แบบที่สอง ตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศหรือภาพถ่ายดาวเทียมรายละเอียดสูง และชี้เป้าหมายแปลงที่ดินที่อาจมีการใช้ประโยชน์ในที่ดินผิดปกติโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และแบบที่สาม การตรวจสอบการถือครองที่ดิน กรณีเกษตรกรทำผิดระเบียบหรือบุคคลอื่นครอบครองที่ดินโดยมิชอบ รวมถึงการพบการกระทำผิดในเขตปฏิรูปที่ดิน เช่น การร้องเรียน แจ้งเบาะแสจากบุคคลหรือหน่วยงานเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิด การรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้ากระทำผิดจริงจะสั่งให้สิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ทันที”
คปก. ยังเห็นชอบแผนงานและงบประมาณระยะ 5 ปี การดำเนินงานบริหารจัดการที่ดินแปลงว่างพื้นที่นำร่อง 9 จังหวัด จำนวน 24 แปลง เนื้อที่ประมาณ 2,761-3-11 ไร่ ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรัง สระแก้ว ราชบุรี เลย นครราชสีมา เพชรบุรี สงขลา และเพชรบูรณ์ ใช้งบประมาณ 243,056,502 บาท และยังมีการอนุมัติค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการแปรรูปสมุนไพรด้วยโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ต้นทุนต่ำในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 5,325,200 บาท รวมถึงอนุมัติค่าใช้จ่ายตามโครงการก่อสร้างถนนสายซอยผิวจราจรหินคลุกในแปลงเกษตรกรรม เกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 7 สาย ระยะทางรวม 4.605 กิโลเมตร จำนวน 5,557,000 บาท เพื่อให้เกษตรกรมีความสะดวก ลดระยะเวลาในการขนส่งผลผลิตและเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม นอกจากนั้นยังอนุมัติแผนงานและงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ วงเงิน 3,825.8017 ล้านบาท ซึ่งเป็นแผนงานและโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินการปฏิรูที่ดิน และเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน
เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า “นอกจากที่ประชุมจะอนุมัติค่าใช้จ่ายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือสินค้าจากสมุนไพรให้มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและเป็นที่ต้องการของตลาด ยังเห็นชอบการดำเนินงานบริหารจัดการที่ดินแปลงว่าง โดยจะนำร่องใน 9 จังหวัด เพื่อจัดสรรให้เกษตรกรที่ต้องการที่ดินทำกิน จึงต้องเร่งดำเนินการขับเคลื่อนงานเพื่อแก้ปัญหาเกษตรกรที่ยังไม่มีที่ดินทำกินต่อไป”