พาณิชย์ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) “โครงการสถานีบริการน้ำมันเต็มลิตร” กับผู้ประกอบการค้าน้ำมัน จำนวน 10 ราย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เล็งเห็นความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภค จึงมีนโยบายให้ทางกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ พัฒนาการกำกับดูแลงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการคุ้มครองดูแลและสร้างความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรวัดปริมาตรน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานีบริการที่มีอยู่กว่า 6,000 แห่งทั่วทั้งประเทศตามเส้นทางหลัก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดที่มีผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ใช้รถยนต์ซึ่งแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามภาวการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับกรมการค้าภายในได้ดำเนินการ “โครงการสถานีบริการน้ำมันเต็มลิตร” มาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2546 จนถึงปัจจุบัน และมีสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวแล้ว เป็นจำนวนทั้งสิ้นกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ 

ดังนั้น เพื่อเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน  ซึ่งถือเป็นการสร้างเครือข่ายและสนับสนุนให้ภาคเอกชนสามารถกำกับดูแลสถานีบริการน้ำมันของตนเองได้อย่างถูกต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย มีประสิทธิภาพ และเป็นการส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีความสามารถในการแข่งขันทางการค้า อีกทั้งยังส่งผลให้การกำกับดูแลมาตรวัดปริมาตรน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานีบริการมีความถูกต้องเที่ยงตรงมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมมาตรวัดฯ ที่มีอยู่ทั่วทั้งประเทศได้ในระยะเวลาอันสั้น กระทรวงพาณิชย์ จึงได้ดำเนินการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเป็นการประสานความร่วมมือระหว่างกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กับผู้ประกอบการค้าน้ำมัน จำนวน 10 บริษัท ประกอบด้วย 1) บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)  2) บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด 3) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 4) บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) 5) บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) 6) บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 7) บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด 8) บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด 9) บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) 10) บริษัท พี โอ ออยล์ จำกัด

โดยวัตถุประสงค์ในการลงนามร่วมกันเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคว่าจะได้รับปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ซื้อจากสถานีบริการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่เข้าร่วมโครงการครบเต็มจำนวนลิตร และเกิดความตระหนักว่าผู้บริโภคได้รับความคุ้มครอง ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิงในสถานีบริการ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการรักษาความเป็นธรรมทางการค้า และเป็นการสร้างมาตรฐานให้การกำกับดูแลมาตรวัดปริมาตรน้ำมันเชื้อเพลิงมีความถูกต้องเที่ยงตรงและสอดคล้องตามมาตรฐานสากล

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์มีความเชื่อมั่นว่าหลังที่ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรียบร้อยแล้ว  จะทำให้ประชาชนผู้ใช้รถมีความมั่นใจจากการเติมน้ำมันจากสถานีบริการที่เข้าร่วมโครงการ “สถานีบริการน้ำมันเต็มลิตร” ทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลมาตรวัดปริมาตรน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานีบริการให้มีความถูกต้องเที่ยงตรงและครอบคลุมสถานีบริการที่มีอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงประชาชนผู้ใช้รถได้รับความเป็นธรรมในการใช้บริการ ทั้งนี้ หากพบการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

—————————————-