วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.30 น. ที่ ห้องประชุมมงคลบพิตร 1 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้ นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ประธานหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับ ฯพณฯ ระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ในโอกาสเดินทางมาเยือนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศอินโดนีเซีย และประเทศไทยในระดับท้องถิ่น และรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่น โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและภาคกลางของไทย
นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่างของประเทศ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 63 ของประเทศไทย มีประชากรประมาณ 820,000 คน มีเส้นทางคมนาคมทั้งทางรถยนต์ ทางรถไฟ และทางเรือ เป็นศูนย์กลางการเดินทางสู่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ ให้เป็นเมืองมรดกโลก นอกจากนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยายังมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมเฉลี่ยต่อหัว (GDP) สูงเป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากทำเลที่ตั้งของเมือง รวมทั้งประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ โบราณสถานหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองเกษตรกรรม และเขตนิคมอุตสาหกรรม จึงส่งผลให้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีนักท่องเที่ยว และนักลงทุนสนใจมาเยี่ยมชม และร่วมลงทุน เป็นจำนวนมาก สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในจังหวัด ทำให้เราต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ สังคม ให้เกิดการพัฒนามากยิ่งขึ้น สำหรับการมาพบปะครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดียิ่ง ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว ข้อหารือและข้อเสนอแนะ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมขอเชิญชวนคณะเอกอัครราชทูตและประชาชนชาวสาธารณรัฐอินโดนีเชีย เดินทางมาเยือนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ด้าน ฯพณฯ ระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์อันดีกับไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยก่อนได้รับเอกราชจากเนเธอร์แลนด์ มีผู้เรียกร้องเอกราชชาวอินโดนีเซียจำนวนหนึ่งมาพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และทั้งสองประเทศยังเป็นสมาชิกแรกเริ่มก่อตั้งอาเซียนเมื่อปี 2510 นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังเป็นประเทศที่มีหมู่เกาะมากที่สุดในโลก ประมาณ 17,000 เกาะ ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์และภาษาพื้นเมืองหลายร้อยกลุ่ม โดยชาวชวาเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด แต่สามารถอยู่ร่วมกันโดยมีเอกภาพท่ามกลางความหลากหลาย จึงขอความร่วมมือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชาวไทยไปท่องเที่ยวในประเทศอินโดนีเซียมากขึ้นเช่นกัน โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย นอกเหนือจากจาการ์ตา เมืองหลวง และเกาะบาหลี ที่พร้อมรอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างอบอุ่น
ข่าว : #สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
#เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
#ประจำประเทศไทย #เยือนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา