วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แถลงข่าว “Take care ดูแลใจ มอบความรักเติมเต็มความสุข” พร้อมด้วยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีผู้บริหารองค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับ เข้าร่วมฯ ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 อาคารราชวัลลภ
รมว.ศธ. กล่าวว่า ภารกิจด้านการศึกษานั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งกับประเทศชาติ โดยกระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวให้บรรลุผลสำเร็จ โดยได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” เพื่อการยกระดับคุณภาพการศึกษาควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากร ด้วยการเรียนรู้อย่างมีความสุข และมีทักษะชีวิต ซึ่งได้มีการนำนโยบายด้านการส่งเสริมสุขภาพกายและจิตสู่การปฏิบัติในสถานศึกษา อย่างเป็นรูปธรรม และมีการบูรณาการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง
การดำเนินการที่ผ่านมา ศธ. ได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตรอบด้าน สร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้กับนักเรียน นักศึกษาและพัฒนาคุณภาพของครูและบุคลากร ให้สามารถส่งเสริม สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือผู้เรียนให้มีการเรียนรู้ที่สมวัยด้วยการเรียนรู้อย่างมีความสุข และมีทักษะชีวิตผ่าน 14 โครงการแห่งความรัก บวก 1 แนวทางเติมเต็มความสุขให้กับครูและนักเรียน ดังนี้
1. Online Up Skill โดยการติวให้กับนักเรียนที่จะสอบเข้าศึกษาต่อ ในระดับ ม.1 และม.4 พร้อมอบรมเพิ่มทักษะสำหรับครูในช่วงปิดภาคเรียน
2. ลด(ภา)ระ เลิก โครงการที่ซ้ำซ้อน ปรับรูปแบบให้ทันสมัย
3. พัฒนาสุขภาวะกายและใจ เพิ่มมิติด้านความปลอดภัยในสถานศึกษา และธรรมนูญสุขภาพในโรงเรียน
4. MOE Content Creator Award 2024 ด้วยการสร้างและพัฒนา Content เพื่อการสื่อสารด้านสุขภาพกายและจิตของนักเรียน นักศึกษา ครูในหัวข้อเด็กไทยฐานใจดี หัวข้อพลังความดีสร้างชาติ และหัวข้อ Coaching ปิ๊งอาชีพ ชิงเงินรางวัลกว่า 450,000 บาท
5. สุขภาพจิตดีเริ่มที่เรา “Hello Good Day” จัดทำรูปแบบการสื่อสารสุขภาพจิตในโรงเรียนเชิงบวกด้วยการสวัสดีตอนเช้า และจัดทำ LINE STICKER “MOE Happy” เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างความตระหนักการมีส่วนร่วมและการดูแลสุขภาพจิตนักเรียนร่วมกัน
6. Guidance Teacher Skill Up พัฒนาครูแนะแนวในทุกสังกัดให้สามารถเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ ดูแลช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา และพัฒนาศักยภาพพร้อมดูแลสุขภาพจิตผู้เรียน
7. พัฒนาความเข้มแข็งเครือข่ายนักจิตวิทยาโรงเรียน เพิ่มทักษะการฟัง การให้คำปรึกษา และทักษะของนักจิตวิทยาคลินิกที่จำเป็นต้องใช้ในสถานศึกษา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างเครือข่ายในระดับภูมิภาค
8. MOE Consulting Platform สร้างแพลตฟอร์มให้คุณครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน ได้ขอรับการปรึกษาและการดูแลสุขภาพจิต จากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาในรูปแบบ Face to Face บนระบบ Online
9. ใส่ใจสุขภาพจิตนักเรียนด้วย Platform School Health HERO ต่อยอดขยายผลการดูแลสุขภาพจิตนักเรียนวิถีใหม่ให้ครอบคลุมทุกสังกัด
10. Bully Free zone สร้างกลไกป้องกันการ Bully ในสถานศึกษา ที่ครอบคลุมทั้งระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับต้นสังกัด เพื่อคอยให้คำปรึกษา เป็นที่พึ่งพิงสร้างความไว้วางใจ ความรู้สึกปลอดภัย คอยรับฟัง รวมทั้งช่วยเหลือคุ้มครองนักเรียนที่ถูกกระทำอย่างเหมาะสม พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจประเมิน รักษา ฟื้นฟู เยียวยาจนจิตใจและร่างกายสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
11. จัดตั้งหน่วยบริการแนะแนวให้การปรึกษาทางการศึกษา อาชีพ คุณภาพชีวิต และบริการตรวจสุขภาพใจอย่างครบครัน ครอบคลุม 928 แห่งทั่วประเทศ
12.ส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยด้วย 3 เร่ง (เร่งกำหนด “การฟื้นฟูเด็กปฐมวัยเป็นวาระแห่งชาติ“, เร่งให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็ก และสังคม, เร่งค้นหา เยียวยา และพัฒนาเด็กในภาวะเปราะบาง) 3 ลด (ลดการใช้สื่อหน้าจอในเด็กปฐมวัยอย่างจริงจัง, ลดความเครียดคืนความสุขแก่เด็ก, ลดการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก) 3 เพิ่ม (เพิ่มกิจกรรมฟื้นฟูพัฒนาการที่เสียไป, เพิ่มสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า, เพิ่มศักยภาพบุคลากรและระบบนิเวศใกล้ตัวเด็ก)
13. สถานศึกษาปลอดภัย 1 วิทยาลัย 1 ครูอนามัย มีกลไกการดูแล ช่วยเหลือ และส่งต่อด้านสุขภาพกายและจิตในสถานศึกษา ครอบคลุมสถานศึกษาในสังกัด สอศ. ทุกแห่งทั่วประเทศ
14. พัฒนากระบวนทัศน์ทักษะ อารมณ์สังคมในผู้เรียน ให้รู้ตน รู้คน รู้สังคม รู้คิดบวก มีทักษะทางสังคมและอารมณ์ในศตวรรษที่ 21 ตลอดจนอีก 1 แนวทางสนับสนุนกิจกรรม 3 ด้าน ทั้งศิลปะ ดนตรี กีฬา
“กระทรวงศึกษาธิการ จะดำเนินงานโครงการแห่งความรัก เติมเต็มความสุขให้กับครูและนักเรียน ด้วย 14 โครงการ บวก 1 แนวทาง สู่การปฏิบัติในสถานศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างเข้มแข็งจากสถานศึกษา และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงาน “ศึกษา Take care ดูแลใจ มอบความรักเติมเต็มความสุข” ให้สำเร็จ กระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความสุขในการเรียน การทำงาน ให้กับทุกท่าน ถือเป็นการสร้างพลังบวกให้เกิดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้เห็นผลสัมฤทธิ์ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นไป”
โฆษก ศธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่ รมว.ศธ. ได้มอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานการศึกษาภายใต้แนวคิด “เรียนดี มีความสุข” เพื่อมุ่งเน้นการจัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ ความมั่นคงของชีวิต พร้อมยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา Anywhere Anytime เรียนฟรี มีงานทำ “ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” โดยมุ่งเน้นเร่งรัดการลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา และลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ซึ่งมีแนวทางการทำงานภายใต้แนวคิด “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน”
นอกจากนี้ ศธ. ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน ดูแล และให้ความช่วยเหลือทางด้านสุขภาพกายและจิตของนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากร ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่เริ่มจากความสุข ทั้งผู้เรียน ผู้สอน และผู้ปกครอง จะส่งผลให้ผู้เรียนมีทักษะที่สมบูรณ์ ทั้งด้านวิชาการ วิชาชีพ และทักษะชีวิต โดยมีครูคอยเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ ดูแลช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา ค้นหาและพัฒนาศักยภาพผู้เรียนให้สามารถบรรลุความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ด้วยความสุข ความเข้าใจตนเอง พร้อมสุขภาพกายและจิตที่สมบูรณ์ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขในสังคม