ปัจจุบัน ประเทศไทยส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่ปริมาณการส่งออกมีจำนวนและมูลค่าลดลง เนื่องจากกลุ่มคู่แข่ง โดยเฉพาะอินเดีย เวียดนาม และเมียนมา ที่เข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น ซินเจนทา บริษัทผู้นำด้านธุรกิจการเกษตรระดับโลก จึงได้จัดงานนิทรรศการนวัตกรรมและเทคโนโลยีข้าว หรือ Rice Expo ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาความรู้และเสริมทักษะด้านการเพาะปลูกให้แก่กลุ่มเกษตรกร “ชาวนา” ของไทย ให้สามารถผลิตและพัฒนาข้าวไทยให้ดีและมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
นายดำรงศักดิ์ เดี่ยววาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จำกัด หรือ ซินเจนทา เปิดเผยว่า “การนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตข้าวเป็นหัวใจหลักสำคัญตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคโนโลยีการอารักขาพืช โดย ซินเจนทา ได้ลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงวิธีการเจริญเติบโตและปกป้องพืช ช่วยเกษตรกรให้มีจำนวนผลผลิตและคุณภาพของพืชมากขึ้น โดยใช้ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีส่วนผสมคุณภาพ ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพการป้องกันพืช ปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อม”
การจัดงานนิทรรศการนวัตกรรมและเทคโนโลยีข้าว หรือ Rice Expo จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ณ สถานีทดลองของซินเจนทา จังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน พ.ศ.2561 ได้รวบรวม 8 เทคโนโลยีเพิ่มผลผลิตข้าวมาแนะนำให้แก่กลุ่มเกษตร ให้เกิดการใช้อย่างถูกต้องตามหลักอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน ช่วยลดปริมาณการใช้สารเคมีในการเพาะปลูกระยะยาว ตัวอย่างเทคโนโลยีที่น่าสนใจ อาทิ ระบบการจัดการนาข้าวอัจฉริยะของซินเจนทา การใช้เทคโนโลยีอารักขาพืชด้วยระบบโดรน นวัตกรรมการบริหารจัดการศัตรูพืช อาทิ วัชพืช โรคพืช และแมลง สาธิตการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ และปัจจัยทางการเกษตร โดยมีกลุ่มเกษตรกร ชาวนา สนใจตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมสูงถึง 1,500 ราย ตลอดระยะเวลา 3 วัน
การจัดงานดังกล่าว เป็นหนึ่งในกิจกรรมของแผนรณรงค์ระดับโลกของกลุ่มบริษัทซินเจนทา ที่เรียกว่า Good Growth Plan หรือ แผนการเติบโตเชิงบวก เริ่มตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) โดยมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรให้สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของประชากร ความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้น และทรัพยากรธรรมชาติที่เริ่มขาดแคลน ผ่าน 6 แผนยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) แผนเพิ่มศักยภาพการผลิต 2) แผนรักษาพื้นที่เพาะปลูกให้คงสภาพดี 3) แผนเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ 4) แผนเพิ่มศักยภาพผู้เพาะปลูกรายย่อย 5) แผนพัฒนาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และ 6) แผนดูแลสวัสดิภาพแรงงานเกษตรทุกคน
นายสมเกียรติ์ ริมชล ผู้บริหารโครงการ Rice Expo จัดโดยซินเจนทา กล่าวเสริมว่า “สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการดำเนินกิจกรรมภายใต้แผนพัฒนาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ในการพัฒนาทักษะและฝึกอบรมด้านการปฏิบัติและใช้ผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์และเครื่องมือในการเกษตรอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่า เกษตรกร จะไม่ได้รับผลกระทบในระยะยาว ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ทีมงานซินเจนทา ได้แบ่งปันความรู้ อบรม และสาธิตให้แก่เกษตรกรไทยและทั่วโลกแล้วกว่า 25.5 ล้านราย โดยดำเนินการเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20 ล้านรายในปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) แล้ว”