กรมสุขภาพจิต แนะวิธีการเตรียมความพร้อมกายใจ เพื่อก้าวเข้าสู่วัยเกษียณอย่างมีคุณภาพ และมีความสุข ด้วยการสร้างสุข 5 มิติ คือ สุขสบาย สุขสนุก สุขสง่า สุขสว่าง และสุขสงบ
วันที่ 6 สิงหาคม 2562 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเข้าใกล้สู่การเกษียณอายุราชการ เนื่องจากการเกษียณอายุราชการ เป็นการครบกำหนดอายุ 60 ปีบริบูรณ์ ซึ่งวันเกษียณอายุราชการ ตรงกับวันที่ 30 กันยายนของทุกปี ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านก้าวสู่การเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่เกษียณอายุราชการ โดยปัจจุบันสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งผู้สูงอายุในประเทศไทยนั้น มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ตามมาจากการเปลี่ยนแปลงนี้ อาจนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ ที่จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เช่น ปัญหาทางด้านสุขภาพกายใจ เศรษฐกิจ สังคมโดยปัญหาเหล่านี้ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ จะเป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับผู้เกษียณอายุได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น หากผู้ที่จะเกษียณอายุ มีการเตรียมความพร้อมในการวางแผนชีวิตก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุหรือวัยเกษียณนับเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า กรมสุขภาพจิต จึงขอแนะนำวิธีการเตรียมความพร้อมกายใจ ก่อนเข้าสู่วัยเกษียณด้วยการสร้างสุข 5 มิติ ดังนี้
1. สุขสบาย (Health) ผู้สูงอายุควรดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้แข็งแรง โดยการออกกำลังกายตามศักยภาพและความสนใจ ไม่น้อยกว่า 30 นาทีต่อครั้ง อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ มีการออกแรงกายในชีวิตประจำวัน สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ตามสภาพที่เป็นอยู่ ทำงานอดิเรกที่ชอบ มีเศรษฐกิจหรือปัจจัยที่จำเป็นเพียงพอ ไม่มีอุบัติภัยหรืออันตราย มีสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมต่อสุขภาพ
2. สุขสนุก (Recreation) ผู้สูงอายุสามารถเลือกวิถีชีวิตที่รื่นรมย์ สนุกสนาน ด้วยการทำกิจกรรมนันทนาการ หรือร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้อารมณ์ดี จิตใจสดชื่น แจ่มใส กระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวา รวมถึงการเล่นกีฬา ดนตรี และทำงานศิลปะ
3. สุขสง่า (Integrity) เป็นการสร้างความรู้สึกพอใจในชีวิต ความภาคภูมิใจ ความเชื่อมั่น การยอมรับนับถือ การให้กำลังใจตนเอง ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การเอื้อเฟื้อแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น เช่น การทำกิจวัตรประจำวัน การทำงานบ้าน ดูแลเด็ก ช่วยเหลือกิจกรรมในครอบครัวและชุมชน เป็นต้น
4. สุขสว่าง (Cognition) เป็นความสามารถของผู้สูงอายุในด้านความจำ ความคิดอย่างมีเหตุมีผล การสื่อสาร การวางแผนแก้ปัญหา และการจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ฝึกทักษะการสื่อสาร การคิดอย่างมีเหตุผล การตัดสินใจที่ดี การฝึกทักษะในการเลี้ยงหลาน ตลอดจนการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน และ
5. สุขสงบ (Peacefulness) ซึ่งเป็นความสามารถของผู้สูงอายุในการรับรู้และเข้าใจความรู้สึกของตนเอง รู้จักควบคุมอารมณ์ สามารถจัดการกับสภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฝึกคิดบวก หาวิธีผ่อนคลายความเครียด ฝึกสติ สมาธิ สามารถปรับตัว และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงได้ อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว