กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ถนนข้าวสารสำรวจความต้องการผู้ประกอบการรายย่อย ส่วนใหญ่ต้องการฝึกทักษะด้านภาษาและเทคนิคการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวชาวจีน กรมพัฒน์ฯ เลยจัดให้…ส่งวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจีนอบรมเทคนิคการใช้ภาษาจีนแบบเร่งด่วน ทั้งการสนทนาเบื้องต้น และการสนทนาเพื่อเพิ่มมูลค่าการขาย พร้อมให้ผู้ประกอบการนำสินค้าที่ขายมาทำการฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ เชื่อ!! ทักษะด้านภาษาและเทคนิคการขายด้วยภาษาที่หลากหลายมีความสำคัญและสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวเข้าใจสินค้ามากขึ้นก่อนตัดสินใจซื้อ ส่งผลผู้ประกอบการรายย่อยเข้มแข็ง เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐก
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานเขตพระนคร และสำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันลงพื้นที่บริเวณถนนข้าวสาร เขตพระนคร แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพื่อสำรวจความต้องการด้านต่างๆ โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะเกี่ยวกับการประกอบอาชีพของผู้ประกอบการรายย่อยที่ค้าขายบนถนนข้าวสาร ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 234 ราย แบ่งเป็น เสื้อผ้า 129 ราย สินค้าเบ็ดเตล็ด 40 ราย อาหารและเครื่องดื่ม 38 ราย กระเป๋า/รองเท้า 15 ราย และ นวด/สัก/ถักผม/เฮนน่า 12 ราย ส่วนใหญ่ต้องการฝึกทักษะด้านภาษาและเทคนิคการขายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน เนื่องจากปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวบนถนนข้าวสารเป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นทุกปี ทักษะด้านภาษาจีนจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มปริมาณยอดขายสินค้า และส่งผลถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันการขายสินค้าให้ท่องเที่ยวชาวจีนมักจะผ่านล่าม หรือใช้ภาษามือในการต่อรองราคาสินค้าเป็นหลัก แต่ไม่สามารถสื่อสารถึงคุณสมบัติเฉพาะ/ความโดดเด่น หรือเรื่องราวของสินค้าได้ ทำให้บางครั้งนักท่องเที่ยวตัดสินใจไม่ซื้อสินค้า”
“กรมฯ จึงได้ร่วมมือกับ สำนักงานเขตพระนคร จัดอบรมทักษะการใช้ภาษาจีนให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยบนถนนข้าวสาร โดยได้จัดหาวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านภาษจีนที่สามารถอบรมและถ่ายทอดการใช้ภาษาจีนอย่างง่ายๆ แบบเร่งด่วน สอนการสนทนาเบื้องต้นและการสนทนาเพื่อเพิ่มมูลค่าการขาย พร้อมทั้ง ให้ผู้ประกอบการนำสินค้าที่ขายมาทำการฝึกฝนทักษะการแจงรายละเอียดสินค้า ความพิเศษ หรือเรื่องราวความเป็นมาของสินค้าเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าใจตัวสินค้ามากขึ้น และพร้อมที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าในราคาที่สมเหตุผล ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสในการขายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการ หรือเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เบื้องต้น ได้คัดเลือกผู้ประกอบการรายย่อยบริเวณถนนข้าวสาร เข้ารับการอบรมฯ จำนวน 50 ราย ประกอบด้วย อาหาร 16 ราย เครื่องดื่ม/ขนมหวาน 10 ราย เสื้อผ้า/รองเท้า/กระเป๋า 10 ราย สินค้าเบ็ดเตล็ด 9 ราย และ ถักผม/เฮนน่า 5 ราย โดยจะทำการอบรมจำนวน 2 วัน คือวันจันทร์ที่ 5 และวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2562 ณ ห้องประชุมเพชรพระนคร สำนักงานเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และหลังจากนั้น จะลงพื้นที่ถนนข้าวสารเพื่อสังเกตการณ์การนำทักษะที่ได้รับไปใช้เพื่อสื่อสารการขายสินค้าเบื้องต้นกับนักท่องเที่ยวชาวจีน และนำผลที่ได้มาทำการปรับปรุงเนื้อหาสำหรับการอบรมครั้งต่อไป และพร้อมที่จะขยายการอบรมฯ ดังกล่าว ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในอนาคตก”
รองอธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า “มั่นใจว่าทักษะด้านภาษาและเทคนิคการขายด้วยภาษาที่หลากหลายมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก สามารถสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว และสื่อสารรายละเอียดของสินค้าได้มากขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจซื้อสินค้าได้ไม่ยาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการรายย่อยทำให้มีความเข้มแข็ง เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจของประเทศ และที่สำคัญที่สุด คือ ผู้ประกอบการได้ยกระดับคุณภาพชีวิตและการประกอบธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น”
จากข้อมูลของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ปี 2561 มีชาวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จำนวน 10,535,955 คน สร้างรายได้เข้าประเทศ จำนวน 580,699.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 729,695 คน คิดเป็นร้อยละ 7.45 และสร้างรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นจำนวน 59,976.83 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.52 (ปี 2560 ชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทย จำนวน 9,806,260 คน สร้างรายได้เข้าประเทศ 520,722.40 ล้านบาท) และระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2562 (6 เดือนแรก) มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จำนวน 5,650,474 คน สร้างรายได้เข้าประเทศ จำนวน 310,470.98 ล้านบาท
***********************************
ที่มา : กองธุรกิจบริการ