กรมพัฒน์ฯ ชนะเลิศ!!! รางวัล Digital Transformation Award 2019

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตอกย้ำ!! ความเป็นสุดยอดแห่งการบริการภาครัฐด้วยระบบดิจิทัล เข้ารับรางวัลชนะเลิศ Digital Transformation Award 2019  สาขา Government Intelligence (การใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ) ภายใต้โครงการคลังข้อมูลธุรกิจ (Business Data Warehouse) จากสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ …การันตีถึงความทันสมัย ความน่าเชื่อถือ พร้อมอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจนำข้อมูลไปวิเคราะห์ก่อนการตัดสินใจลงทุน นับเป็นเพื่อนคู่คิดนักธุรกิจอย่างแท้จริง

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “เมื่อเร็วนี้ๆ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เข้ารับรางวัล “ชนะเลิศ” Digital Transformation Award 2019  สาขา Government Intelligence (การใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ) ภายใต้ชื่อผลงาน โครงการคลังข้อมูลธุรกิจ (Business Data Warehouse) จากสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 37 โครงการ จาก 16 หน่วยงาน โดยรางวัลที่ได้รับเป็นเครื่องการันตีถึงความเป็นสุดยอดแห่งการบริการภาครัฐด้วยระบบดิจิทัล โดยอาศัยเทคโนโลยี Big Data เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐด้วยกัน และประชาชนทั่วไป ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการปฏิบัติราชการไปสู่รัฐบาลดิจิทัลได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น”

“คลังข้อมูลธุรกิจ หรือ Business Data Warehouse ของกรมฯ เป็นแหล่งรวมข้อมูลนิติบุคคลของประเทศไทย ผลประกอบการ การลงทุนจากต่างชาติ ข้อมูลการวิเคราะห์คู่ค้าและโอกาสทางธุรกิจ และข้อมูลการวิเคราะห์แนวโน้มผลประกอบการ รวมทั้ง ข้อมูลด้านเศรษฐกิจการค้าที่ได้บูรณาการเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้บริการแก่ประชาชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการในรูปแบบข้อมูลแบบเปิด (Open Data) โดยนำเทคโนโลยี Big Data มาใช้เพื่อช่วยตัดสินใจในการเริ่มต้นธุรกิจ การขยายการประกอบธุรกิจ และการส่งเสริมธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

อธิบดีฯ กล่าวต่อว่า “นอกจากนี้ กรมฯ จะได้ดำเนินการพัฒนาต่อยอดและยกระดับการให้บริการคลังข้อมูลธุรกิจในรูปแบบข้อมูลสารสนเทศของการวิเคราะห์ดัชนีโอกาสและความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ (Business Opportunity) เพื่อสร้างโอกาสและลดความเสี่ยงของธุรกิจในแต่ละพื้นที่ (Area Based) รายจังหวัด ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจสามารถประกอบธุรกิจด้วยความรอบคอบมากขึ้น คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2563 นี้”

“ภาคธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก Business Data Warehouse เช่น ตรวจสอบสถานะนิติบุคคล โดยสามารถค้นหาข้อมูลของนิติบุคคล พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อมูลในประเภทธุรกิจเดียวกันเพื่อให้ทราบถึงสถานะของตนเองแยกตามขนาดธุรกิจ รวมทั้ง ผลประกอบการเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจ และอัตราส่วนทางการเงิน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวัดประสิทธิภาพในการบริหารงานของกิจการ สะท้อนให้เห็นจุดแข็ง จุดอ่อน ช่วยวิเคราะห์หาแนวทางแก้ไข หรือพัฒนาการดำเนินงานขององค์กรให้ได้ผลการดำเนินงานตรงตามแผนงานหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้ของกิจการ

การวิเคราะห์ธุรกิจ สามารถค้นหาข้อมูลภาพรวมของกลุ่มธุรกิจแต่ละประเภท วิเคราะห์ศักยภาพการดำเนินธุรกิจตามผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจลงลึกถึงระดับภาคและจังหวัด เพื่อให้เห็นถึงแนวโน้มการประกอบธุรกิจในแต่ละพื้นที่ อัตราการอยู่รอดของธุรกิจ พร้อมทั้ง สัดส่วนการลงทุนในนิติบุคคลแบ่งตามสัญชาติ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจเป้าหมายที่สนใจ หรือปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของธุรกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังสามารถค้นหาคู่ค้าทางธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานเดียวกัน (Supply Chain) ตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำเพื่อค้นหาปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ โดยมีข้อมูลทางธุรกิจให้ตรวจสอบเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการติดต่อคู่ค้าที่มีความน่าเชื่อถือ และค้นหาธุรกิจปลายน้ำเพื่อค้นหาแหล่งกระจายสินค้าและผู้ใช้บริการสามารถขยายโอกาสทางการตลาดให้แก่ธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น

การวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจ เป็นเครื่องมือช่วยกำหนดกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ โดยใช้เครื่องมือแบบจำลองทางการเงิน และการประมาณการเพื่อพิจารณาแนวโน้มรายได้ของธุรกิจรายประเภท ลงลึกถึงพื้นที่ และขนาดของธุรกิจ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนแผนการเพิ่มประสิทธิภาพได้ด้วยตนเอง และกำหนดแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้มีทิศทางที่ถูกต้อง วางแผนและกำหนด position ของธุรกิจในอนาคตได้ ส่งผลให้สามารถบรรลุเป้าหมายขององค์กรที่วางไว้ได้อย่างรวดเร็ว สร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจในระยะยาว”

“ผู้ประกอบการสามารถใช้งานระบบ DBD Business Data Warehouse โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟน แทปเลท หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ทางเว็บไซต์ www.dbd.go.th เลือก “บริการออนไลน์” คลิก “DBD DataWarehouse+ ได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้รับรางวัล “แชมเปี้ยน” จากโครงการ Business Data Warehouse (คลังข้อมูลธุรกิจ) ในหมวดที่ 3 ร่วมกับอีก 4 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐมอริเชียส สาธารณรัฐตุรกี และ สหพันธรัฐรัสเซีย จากการประกวดรายการ WSIS Project Prizes 2019 ที่จัดโดย องค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) และ สหภาพโทรคมนาคมนานาชาติ (International telecommunication Union : ITU)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ส่วนประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 0 2547 4376 และ 0 2547 4513 สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th

ที่มา : กองข้อมูลธุรกิจ

วันที่ 3 สิงหาคม 2562