วันที่ 15 ธันวาคม 2566 พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ ๙๐๘ รองประธานกรรมการกองทุนกำลังใจในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา นายยศพล เวณุโกเศศ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ว่าที่ร้อยเอก วิสาร ปัญญชุณห์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ และนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ระหว่างกองทุนกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา กับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ และกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันประสูติ ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยมี พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นพยาน ณ ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพมหานคร
พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในนามกระทรวงศึกษาธิการ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในการสานต่อแนวพระดำริ ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่ทรงมีพระเมตตาอย่างยิ่งต่อผู้ต้องขัง ภายใต้โครงการกำลังใจ โดยเฉพาะผู้ต้องขังหญิง เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ต้องขัง ได้มีโอกาสที่จะพัฒนาตนเอง ปรับเปลี่ยนแนวคิด ได้ฝึกวิชาชีพ เพื่อพัฒนาความรู้ และทักษะฝีมือในวิชาชีพต่าง ๆ สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับไปใช้ได้ผลในชีวิตจริง เพื่อสร้างเป็นอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูตนเอง และครอบครัว ภายหลังพ้นโทษได้อย่างภาคภูมิใจ เป็นที่ยอมรับของสังคมการสร้างโอกาส และหยิบยื่นกำลังใจให้แก่ผู้ก้าวพลาด ส่งเสริมให้ผู้ต้องขังได้รับความรู้ และทักษะใหม่ ๆ ในการประกอบอาชีพสุจริต เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจจากทุกฝ่าย
กระทรวงศึกษาธิการ โดย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลการจัดการศึกษา และฝึกอบรมวิชาชีพ จึงให้ความสำคัญต่อการจัดการเรียนการสอน และการฝึกวิชาชีพ โดยมีความตั้งใจ และยินดีเป็นอย่างมากที่จะร่วมกันให้การสนับสนุน การดำเนินการร่วมกับทั้ง 3 หน่วยงาน ในการพัฒนาหลักสูตรการฝึกวิชาชีพการแนะแนวอาชีพ และการจัดการเรียนการสอน ที่เหมาะสม ให้แก่ผู้ต้องขัง ซึ่งในปัจจุบันมีสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด ได้ร่วมจัดการเรียนการสอน และฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำ และทัณฑสถาน อยู่แล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกท่านที่ประสานให้เกิดความร่วมมือในครั้งนี้ ซึ่งจะยังประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอน การฝึกทักษะวิชาชีพ ให้แก่ ผู้ต้องขัง เพื่อให้พวกเขามีพลังกาย และใจที่เข็มแข็งในการประกอบสัมมาชีพเลี้ยงดูตนเอง และครอบครัวด้วยความภาคภูมิใจ สามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ได้ ไม่หวนกลับไปกระทำสิ่งที่ผิดพลาดอีก และกลับมาเป็นประชากรที่มีคุณภาพ และถือได้ว่าเป็นการจับมือกันในการคืนคนดีสู่สังคม ต่อไป