วันที่ 8 ธันวาคม 2566 นางสาวซาราห์ บินเย๊าะ ที่ปรึกษาวิชาการพัฒนาสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะประธานคณะทำงานวิชาการศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เปิดเผยว่า กรณีการนำเสนอข่าว “แม่ทิ้งลูกน้อย 5 คน ให้ดูแลกันเอง คนเล็กสุดกินน้ำแทน” นั้น กระทรวง พม. โดย ศรส. ได้รับรายงานจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ศรส. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า แม่และเด็กทั้ง 5 คน อาศัยอยู่ห้องเช่าบริเวณซอยพหลโยธิน 50 เขตบางเขน กรุงเทพฯ โดยครอบครัวอาศัยอยู่กัน 7 คน ประกอบด้วย พ่อของเด็ก (ไม่ได้ประกอบอาชีพ เนื่องจากตกงาน) แม่ของเด็ก และเด็กจำนวน 5 คน ได้แก่ เด็กอายุ 1 ปี 6 เดือน อายุ 2 ปี 6 เดือน อายุ 8 ปี อายุ 11 ปี และอายุ 13 ปี แต่ด้วยมีเด็กเล็กจำนวนหลายคนอยู่รวมกัน จึงอาจทำให้ส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน ผู้เป็นแม่จึงจำเป็นต้องพาเด็กทั้งหมดออกมาอยู่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านสะพานใหม่ กรุงเทพฯ ในช่วงเช้า และจะมารับกลับช่วงเวลากลางคืนหลังเลิกงาน ซึ่งทำแบบนี้เป็นประจำได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว แต่มีพลเมืองดีพบเห็นและสงสาร อยากช่วยหาทางออก จึงไปแจ้งหน่วยงานเพื่อให้การช่วยเหลือ
นางสาวซาราห์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม. โดยทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ศรส. และ “กัน จอมพลัง” นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ได้เดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้าดังกล่าว และพบกับเด็กทั้ง 5 คน จึงได้มีการพูดคุยกับเด็กๆ และเชิญแม่ของเด็กมาพบ หลังจากนั้น ได้ไปที่ สน.บางเขน เพื่อสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากแม่เด็กเพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัว โดยได้มีการประเมินในเบื้องต้น พบว่า พ่อและแม่ของเด็กยังไม่พร้อมที่จะอุปการะดูแลเด็กทั้ง 5 คนได้ เนื่องจากยังมีปัญหาด้านที่อยู่อาศัย และแม่ของเด็กทำงานเพียงคนเดียว มีรายได้ประมาณวันละ 300 บาท แต่ต้องหาเลี้ยงทั้งครอบครัวทั้งหมด 7 คน จึงมีความจำเป็นต้องนำเด็กเข้ารับการดูแลคุ้มครองในหน่วยงานของกระทรวง พม. และช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัว ซึ่งขณะนี้ กระทรวง พม. ได้รับเด็กทั้ง 5 คน เข้ารับการดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพ ณ บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร เรียบร้อยแล้ว โดยได้รับความยินยอมจากแม่ของเด็ก และได้มีการวางแผนช่วยเหลือระยะยาวในการประเมินครอบครัวอีกครั้ง หากพ่อและแม่ของเด็กยังไม่พร้อมที่จะอุปการะเด็กได้ จะต้องดำเนินการส่งเด็กเข้ารับการดูแลในสถานสงเคราะห์ต่อไป
นางสาวซาราห์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับกรณีการนำเสนอข่าว “ตาสุดซ้ำ แจ้งความเอาผิดพ่อเลี้ยง ล่วงละเมิดหลานสาววัย 6 ขวบ” นั้น กระทรวง พม. โดย ศรส. ได้รับรายงานจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้ส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ศรส. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด เพื่อร่วมกันสอบปากคำเด็ก พบว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 66 เด็กหญิง อายุ 6 ปี ถูกพ่อเลี้ยง อายุ 37 ปี ล่วงละเมิดทางเพศระหว่างเดินทางจาก จ.ชลบุรี เพื่อมาเยี่ยมตาและยายที่บ้าน ย่านจรัญสนิทวงศ์ กทม. ต่อมาในวันเดียวกัน เด็กหญิง อายุ 6 ปี ได้โทรศัพท์หาผู้เป็นแม่ ซึ่งขณะนั้นแม่ของเด็กอยู่ที่ จ.ชลบุรี และได้แจ้งกับแม่ว่าตนถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศในรถยนต์ ในขณะที่กำลังเดินทางไปเยี่ยมตาและยาย พบว่าสภาพร่างกายของเด็กหญิงมีอาการบาดเจ็บเนื่องจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และต่อมาตาของเด็กหญิงได้พาส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ เพื่อตรวจร่างกายพบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง และเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 66 พนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ได้รับคำร้องทุกข์ โดยมีทีมสหวิชาชีพ และพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ได้ร่วมกันสอบปากคำเด็กหญิง อายุ 6 ปี และแม่ของเด็ก หลังจากสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นพ่อเลี้ยงของเด็ก และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งพ่อเลี้ยงของเด็ก ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กจริง
ทั้งนี้ กระทรวง พม. โดยทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ศรส. ได้มีการติดตามความคืบหน้าด้านคดี และได้สอบถามอาการของเด็กหญิงจากนักสังคมสงเคราะห์ พร้อมแนะนำผู้ปกครองของเด็กในการยื่นเรื่องการรับเงินค่าตอบแทนผู้เสียหายทางคดีอาญา อีกทั้งให้กำลังใจครอบครัว และพูดคุยกับผู้ปกครองของเด็ก เพื่อให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องตามภารกิจของกระทรวง พม. ต่อไป
#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พม.หนึ่งเดียว #ศรส #พม